แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายเข้าไปในไร่ฝ้าย แล้วทำการหวดต้นฝ้าย เพื่อลักในเวลากลางวัน จำเลยเป็นผู้เฝ้าไร่ได้ยิงผู้ตายถึงแก่ความตายเป็นการป้องกันทรัพย์เกินสมควรแก่เหตุมาก
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เวลากลางวันจำเลยสมคบกันกับพวก ใช้ปืนยิงนายส้อยสุ้น แซ่ทั่งตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๒๔๙,๖๓
จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่า นายส้อยสุ้นได้เข้าไปลักฝ้ายในไร่ของบิดา จึงยิงเพื่อป้องกันทรัพย์ จำเลยที่ ๒ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๒๔๙ จริงตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุก ๑๐ ปี ส่วนจำเลยที่ ๒ ปล่อยตัวไป
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายส้อยสุ้นได้เข้าไปในไร่ฝ้าย แล้วทำการหวดต้นฝ้ายเพื่อลักในเวลากลางวัน ซึ่งต้นฝ้ายในไร่นั้น นายส้อยสุ้นได้ยกให้ หรือขายให้แก่นายเชยแล้ว จำเลยเป็นผู้อยู่เฝ้าดูแลรักษาต้นฝ้าย จำเลยจึงยิงนายส้อยสุ้นถูกที่ใต้ชายโครงขวาล้มลง และตายในเวลาบ่ายวันนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำเป็นการป้องกันทรัพย์เกินสมควรแก่เหตุมาก จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่แก้ฉะเพาะข้อกำหนดโทษ เป็นให้จำคุก ๗ ปี โดยไม่ปราณีลดโทษให้