คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดฐานเรี่ยไร่ในที่สาธารณะสถาน และอ้างบทกฎหมายที่ยกเลิกแล้ว จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้ทำการเรี่ยไรในที่สาธารณะสถาน จึงไม่ต้องขอนุญาต เมื่อสืบพยานโจทก์ 13 ปาก แล้ว โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องเปลี่ยนฐานความผิดใหม่ว่า จำเลยเรี่ยไรเพื่อสาธารณะประโยชน์และอ้างบทกฎหมายใหม่ ซึ่งบังคับให้ต้องขออนุญาต ดังนี้ ถือว่า ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ และเสียเปรียบ ศาลไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและร้องเพิ่มเติมว่า จำเลยได้สมคบกันเรี่ยไรโดยส่วนตัวและในนามของจำเลยที่ ๑ เป็นการเรี่ยไรในที่สาธารณะสถาน และจำเลยที่ ๑,๒,๓,๔ สมคบกันออกใบรับเงินให้แก่ผู้ออกเรี่ยไร ๑๐๕ ฉบับโดยไม่ปิดอากรแสตมป์ จำเลยให้การว่าไม่ได้เรี่ยไรในที่สาธารณะสถาน จึงไม่ต้องขออนุญาต เดิมโจทก์ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร ๒๔๘๐ มาตรา ๔,๖,๗,๑๒ และประมวลรัษฎากร เมื่อสืบพยานโจทก์ได้ ๑๓ ปาก โจทก์ยื่นคำร้องครั้งที่ ๒ ว่าที่ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร ๒๔๘๐ นั้นยังคลาดเคลื่อนอยู่ ขอเพิ่มเติม พ.ร.บ. ควบคุมการเรี่ยไร ๒๔๘๗ มาตรา ๔,๕,๖,๑๗ จำเลยคัดค้าน ต่อมาโจทก์ร้องขอเพิ่มเติมฟ้องครั้งที่ ๓ ว่า ฟ้องเดิมยังขาดความสำคัญอยู่ ขอเพิ่มเติมข้อความต่อไปนี้ว่า “และเป็นการเรี่ยไรเพื่อโรงเรียนอันเป็นสาธารณะประโยชน์ที่จำเลยจัดให้มีขึ้น ทั้งนี้เป็นการเรี่ยไรในที่สาธาณะสถานฯลฯ”
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องครั้งที่ ๒-๓ คงปรับจำเลยที่ ๑,๒,๓,๔ ฐานออกใบรับไม่ปิดอากรแสตมป์คนละ ๒๕ บาท โดยลดกึ่งหนึ่งแล้ว ส่วนข้อหาฐานเรี่ยไรผิดกฎหมายนั้นตามฟ้องเดิมแล้วจะลงโทษตามพระราชบัญญัติยกเลิกแล้วไม่ได้ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องเดิมหาว่าจำเลยเรี่ยไร่ในที่สาธารณะสถาน ฟ้องเพิ่มเติมใหม่กลับหาว่าจำเลยเรี่ยไรเพื่อสาธารณะประโยชน์ ซึ่งเป็นความผิดคนละอย่างต่างกัน จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ทำการเรี่ยไรในที่สาธารณะสาถน จึงไม่ต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงาน เมื่อสืบพยานโจทก์ได้ถึง ๑๓ ปาก โจทก์จึงขอเพิ่มเติมฟ้องฐานความผิด โดยตั้งข้อหาขึ้นใหม่ ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ในจ้ที่ผิดและเสียเปรียบ เห็นพ้องกับศาลล่างที่มิให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้อง ยกฟ้องในฐานนี้ พิพากษายืน

Share