คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความฝ่ายหนึ่งขอนำสืบว่า ความจริงที่โฉนดมีชื่ออีกฝ่ายหนึ่งเป็นเจ้าของ เพราะฝ่ายนั้นเป็นตัวแทนหรือลงนามแทนตนนั้น เป็นการนำสืบความจริงในระหว่างตัวแทนกับตัวการ หาใช่เป็นเรื่องนำสืบหักล้างเอกสารทางทะเบียนไม่ จึงย่อมนำสืบได้ และจะขอนำสืบถึงเอกสารที่อ้างว่าฝ่ายนั้นทำรับรองไว้ อันเป็นพยานหลักฐานว่า ฝ่ายนั้นเป็นตัวแทน ก็นำสืบได้ เช่นเดียวกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ เป็นเจ้าของที่ดินโฉนด ๒ แปลง โจทก์ได้ฝากโฉนดไว้กับสามีจำเลย ต่อมาสามีจำเลยตาย โฉนดตกอยู่ที่จำเลยจึงขอให้จำเลยคืนโฉนด จำเลยต่อสู้ว่าโฉนด ๒ ฉบับนี้ สามีจำเลยซื้อมาจากผู้อื่นแต่จะรับโอนโฉนดด้วยตนเองไม่ได้เพราะเป็นคนต่างด้าว จึงให้โจทก์ซึ่งเป็นหลานเป็นผู้รับโอนในนามโจทก์ และโจทก์ได้ทำหน้งสือรับรองว่าโฉนดนั้นเป็นของโจทก์แต่เพียงในนาม แต่หนังสือนี้หายเสียแล้ว จึงฟ้องแย้งให้โจทก์โอนโฉนดให้จำเลยในนามผู้จัดการกองมรดกของสามีจำเลย
ชั้นพิจารณา โจทก์ร้องขอให้ศาลวินิจฉัยในปัญหาข้อ ก.ม.ว่า จำเลยจะนำสืบหักล้างเอกสารทางทะเบียนไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิจารณาในประเด็นข้อนี้ก่อนแล้ว ชี้ว่าที่ดินตามโฉนดรายนี้เป็นของโจทก์ตามทะเบียน จำเลยจะนำสืบแก้ไขเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ตามมาตรา ๙๔(ข) จึงพิพากษาให้จำเลยมอบโฉนดให้โจทก์รับไป และยกฟ้องแย้งของจำเลย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การที่จำเลยจะขอสืบพยานบุคคลเพราะเอกสารได้สูญหายนั้น เป็นการสืบได้ตาม วิ.แพ่ง ม. ๙๒(๒) จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป จนสิ้นกระแสความแล้ว พิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยต่อสู้ และฟ้องแย้งที่ดินรายพิพาทนี้ สามีจำเลยเป็นผู้ซื้อ แต่ใส่ชื่อโจทก์ไว้แทนหรือในฐานะเป็นตัวแทนของสามีจำเลย และโฉนดอยู่ในความยึดถือของสามีจำเลย การที่จำเลยจะขอสืบว่าความจริงโจทก์เป็นตัวแทนหรือลงนามแทน สามีจำเลยในโฉนดนั้นเป็นการนำสืบความจริงในระหว่างตัวแทนกับตัวการ ซึ่งเป็นลักษณส่วนหนึ่งแห่ง ก.ม.ย่อมนำสืบได้ หาใช่เป็นเรื่องนำสืบหักล้างเอกสารทางทะเบียนไม่ และจำเลยจะขอนำสืบถึงเอกสารที่อ้างว่าฝ่ายนั้นทำรับรองไว้ อันเป็นพยานหลักฐานว่า โจทก์เป็นตัวแทนสามีจำเลย ก็นำสืบได้
พิพากษายืน

Share