คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเก็บแก๊บระเบิดและกระสุนปืนได้โดยตั้งใจจะส่งต่อเจ้าพนักงานนั้น ไม่ถือว่าจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนตามความหมายของพระราชบัญญัติอาวุธปืน ไม่มีความผิด

ย่อยาว

คดีได้ความว่า จำเลยเป็นช่างฟิตประจำกองทางแขวงยะลากลับจากตรวจรถที่อำเภอเบตง รถมาเสียในระหว่างทาง จำเลยเที่ยวหาหินและไม้เพื่อรองรถก็ไปพบแก๊ประเบิด 15 นัด กับลูกปืนพระรามหก 2 ลูกจำเลยจึงเก็บเอามาที่พักเวลา 20.00 น.เศษ รุ่งขึ้นมัวรีบเย็บยางตามคำสั่งของนายช่างเสียทั้งวัน รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งก็เย็บต่ออีกครึ่งวัน ตอนบ่ายขนโต๊ะและเก้าอี้ไปเพื่อตั้งการเลี้ยงนายช่างเสีย รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งตำรวจไปค้นของหายที่บ้านจำเลย จำเลยจึงนำแก๊ปและกระสุนออกมาให้ตำรวจ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2477

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยไม่มีเจตนากระทำผิด เพราะจำเลยไม่มีความประสงค์จะเก็บของกลางรายนี้ไว้ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาไม่เห็นด้วยกับข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ยกเอาเรื่องเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 43 มาปรับแก่คดีแต่เห็นว่า ถ้าการกระทำของจำเลยเป็นการมีเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนแล้ว จำเลยก็ต้องมีความผิด จะว่าจำเลยไม่มีเจตนาไม่ได้ ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยจะเป็นการมีเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดตามความหมายของพระราชบัญญัติอาวุธปืนหรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า คำว่ามีเครื่องกระสุนปืน ฯลฯ ตามความในมาตรา 4(5) หามีความหมายถึงกับว่า ถ้าเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดอยู่ในความควบคุมของใครแล้ว ต้องถือว่าผู้นั้นมีเครื่องกระสุนปืน ฯลฯ ไม่ หากกฎหมายประสงค์เช่นนี้ก็คงใช้คำว่าควบคุมแทนคำว่า มีเป็นเจ้าของ แต่ที่คำอธิบายใช้คำว่ามี หมายถึงการตามปกติมีความหมายไปในทางที่ตกอยู่ในความควบคุมนั้น ก็ประสงค์เพียงให้คำว่า “มี” มีความหมายในนัยที่กว้างขึ้นเท่านั้น คดีนี้จะถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการมีเครื่องกระสุนปืน ฯลฯ ยังไม่ได้ เพราะจำเลยเป็นแต่เก็บมาเพื่อนำส่งให้แก่เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่จำเลยเก็บมาเพื่อเอาไว้เป็นของตน หรือเพื่อถือประโยชน์จากวัตถุนั้น จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share