คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4029/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องมือเพื่อทำการเลื่อยไม้ให้เปลี่ยนรูปหรือขนาดไปจากเดิม และเจ้าพนักงานยึดไม้ยางพารา แปรรูปจำนวน 50 แผ่น ปริมาตร 0.00399 ลูกบาศก์เมตรและเครื่องเลื่อยวงเดือนขนาด 3 แรงม้า 2 เครื่อง ขนาด 5 แรงม้า 1 เครื่อง และมอเตอร์ ไฟฟ้า 3 ลูก เป็นของกลาง เมื่อฟ้องของโจทก์ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 48 ก็ไม่อาจถือได้ว่าไม้แปรรูปของกลางได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ อันจะพึงริบได้ตามมาตรา 74 และด้วยเหตุนี้ การกระทำผิดของจำเลยจึงเป็นเพียงการไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้เท่านั้นไม้แปรรูปของกลางจึงไม่อาจริบได้ ทั้งเครื่องมือเครื่องใช้ของกลางก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 74 ทวิ จึงริบเครื่องเลื่อยวงเดือนและมอเตอร์ ไฟฟ้าของกลางไม่ได้เช่นกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องมือคือเครื่องเลื่อยวงเดือนขนาด ๓ แรงม้า ๒ เครื่อง ขนาด ๕ แรงม้า ๑ เครื่อง และมอเตอร์ไฟฟ้า จำนวน ๓ ลูก เพื่อทำการเลื่อยไม้ให้เปลี่ยนรูปหรือขนาดไปจากเดิมโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานยึดได้ไม้แปรรูป (ไม้ยางพารา) จำนวน ๕๐ แผ่น ปริมาตร ๐.๐๐๓๙๙ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจำเลยได้มาและมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ และยึดเครื่องเลื่อยวงเดือนจำนวน ๓ เครื่อง มอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน ๓ ลูก ซึ่งเป็นเครื่องมือและเครื่องจักรกลที่จำเลยได้ใช้ในการตั้งโรงงานแปรรูปไม้ดังกล่าวเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๗, ๔๘, ๗๓, ๗๔, ๗๔ ทวิ ที่ได้แก้ไขแล้ว ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘ ประกอบมาตรา ๗๓ วรรคแรก มาตรา ๔๗, ๗๔ และมาตรา ๗๔ ทวิ ที่ได้แก้ไขแล้ว ให้จำคุก ๖ เดือน ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๓ เดือน และปรับ ๕,๐๐๐ บาท โทษจำคุกรอไว้มีกำหนด ๒ ปี ของกลางให้คืนเจ้าของ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามฟ้องว่า จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้ขึ้นเพื่อทำการแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องมือคือเครื่องเลื่อยวงเดือนขนาด ๓ แรง จำนวน ๒ เครื่อง ขนาด ๕ แรงม้าจำนวน ๑ เครื่อง และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน ๓ ลูก เพื่อทำการเลื่อยไม้ให้เปลี่ยนรูปหรือขนาดไปจากเดิม โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานยึดไม้แปรรูป (ไม้ยางพารา) จำนวน ๕๐ แผ่น ปริมาตร ๐.๐๐๓๙๙ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจำเลยได้มาและมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ และเครื่องมือดังกล่าวที่จำเลยได้ใช้ในการตั้งโรงงานแปรรูปไม้เป็นของกลาง เห็นว่า สำหรับไม้ยางพาราแปรรูปจำนวน ๕๐ แผ่น ของกลางที่เจ้าพนักงานยึดมาจากจำเลยนั้น โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า เป็นไม้ที่ได้มาและมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ แต่ความผิดเกี่ยวกับไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ มีหลายกรณี โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดตามบทมาตราใดในพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ นอกจากนี้ตามฟ้องของโจทก์ก็ไม่อาจถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้แปรรูปไม้ของกลางดังกล่าวทั้งหากจะถือว่าจำเลยมีไม้ยางพาราแปรรูปไว้ในครอบครองก็ปรากฏว่าไม้ของกลางมีจำนวนไม่เกิน ๐.๒๐ ลูกบาศก์เมตร จึงไม่อาจมีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ มาตรา ๔๘ ดังนี้ กรณีย่อมไม่อาจถือได้ว่าไม้แปรรูปของกลางได้มาหรือมีไว้เนื่องจากกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ อันจะพึงริบได้ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวมาตรา ๗๔ เมื่อไม้แปรรูปของกลางไม่ใช่ไม้ที่ได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ แล้ว การกระทำผิดของจำเลยจึงเป็นเพียงการไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้เท่านั้น ไม้แปรรูปของกลางจึงไม่อาจริบได้ ทั้งเครื่องมือและเครื่องใช้ของกลางก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๗๔ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ศาลจึงริบเครื่องเลื่อยวงเดือนและมอเตอร์ไฟฟ้าของกลางไม่ได้เช่นกัน
พิพากษายืน.

Share