คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4024/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยร่วมยื่นอุทธรณ์และนำเงินค่าขึ้นศาลและค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลแล้ว ต่อมาจำเลยที่ 1และที่ 2 ยื่นอุทธรณ์ ดังนี้ อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ 2 กับของจำเลยร่วมแต่ละฉบับต่างเป็นคำฟ้องตามมาตรา 1(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ของแต่ละคน ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่ฟ้องของแต่ละคนในเวลายื่นฟ้องตามตาราง 1ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2ไม่เสียเงินค่าขึ้นศาลภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงชอบแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 6,482,537.99 บาท ให้แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยจำเลยร่วมได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และได้วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ไว้แล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยร่วม ต่อมาจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นพร้อมกับยื่นคำแถลงว่าจำเลยร่วมได้วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ไว้แล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงไม่ต้องวางเงินค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์อีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำแถลงว่า “กรณีเป็นการชำระหนี้แทนกันและจำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้ยื่นอุทธรณ์เป็นฉบับเดียวกันกับจำเลยร่วม จึงเป็นการใช้สิทธิอุทธรณ์ของตนต่างหากจากกันจึงต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมตามกฎหมาย โดยเฉพาะค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์จะต้องเสียเมื่อยื่นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 ประกอบด้วยตาราง 1 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึงให้ยกคำแถลงนี้ สำเนาให้โจทก์”และมีคำสั่งอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ว่า “จำเลยที่ 1 ที่ 2 ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 ประกอบตาราง 1ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1และที่ 2 ชำระค่าธรรมเนียมศาลให้ครบถ้วนก่อนภายใน 7 วัน มิฉะนั้นให้รายงานเพื่อพิจารณาสั่งต่อไป” จำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบถ้วนภายใน 7 วัน ตามที่ศาลชั้นต้นสั่งศาลชั้นต้นจึงสั่งไม่รับอุทธรณ์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้แม้จำเลยร่วมจะยื่นอุทธรณ์และได้นำเงินค่าขึ้นศาลและค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลแล้วก็ตาม แต่อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ 2กับของจำเลยร่วมแต่ละฉบับต่างเป็นคำฟ้องตามมาตรา 1(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ 2กับของจำเลยร่วม เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ของแต่ละคน จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่ฟ้องของแต่ละคนในเวลายื่นฟ้องตามตาราง 1 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่เสียเงินค่าขึ้นศาลภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด และศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์จึงชอบแล้วคดีไม่จำต้องวินิจฉัยอีกว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 จะต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลหรือไม่
พิพากษายืน

Share