คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 402/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ แต่รองเท้าไม้ของกลางจับได้จากนายประเสริฐ(ไม่ใช่จำเลย) เป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต ริบตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2490 มาตรา 3 ซึ่งเป็นบทหนัก โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาฟังว่ารองเท้าไม้นายประเสริฐถือมาอาจเป็นของนายประเสริฐเอง แต่นายประเสริฐกลัวความผิดจึงปัดว่าเป็นคนอื่น ไม่พอฟังว่าจับได้จากจำเลย พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
(หมายเหตุ ศาลฎีกาพิพากษายืน มีผลถึงให้ริบรองเท้าไม้ของกลางไว้ด้วย น่าจะเป็นเพราะมีการกระทำผิดเกิดขึ้นแล้ว นายประเสริฐซึ่งเป็นเจ้าของรู้เห็นแล้ว น่าจะไม่ขัดกับฎีกาที่ 225/2506 และเทียบเคียงได้กับฎีกาที่ 751/2507)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจนำเงินตราของประเทศลาว ๙๔๘ ฉบับเป็นเงิน ๒๖๓,๓๗๐ กีบ เป็นของต้องกำกัดคิดเทียบเป็นเงินไทย ๖๘,๙๔๔.๕๒ บาทเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาตและนำรองเท้าไม้สตรีหรือรองเท้าแตะ ๒๐ คู่รวมราคาของและค่าอากร ๗๘๐ บาทเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร โดยไม่รับอนุญาต มิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ พระราชบัญญัติว่าด้วยการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๔๘๒ มาตรา ๓, ๕ พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง พ.ศ.๒๔๘๒ มาตรา ๓, ๘, ๙ ริบของกลางและจ่ายรางวัล
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยนำเงินตราเข้ามาผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๔๘๒ มาตรา ๓ และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ ที่แก้ไขแล้ว ปรับ ๔ เท่าเป็นเงิน ๒๗๓,๓๗๘.๐๘ บาท การนำรองเท้าไม้เข้ามาผิดตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้อง แต่ลงบทหนักตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักร ฯ มาตรา ๙ จำคุก ๓ เดือน ปรับ ๓,๐๐๐ บาท รวม จำคุก ๓ เดือน ปรับ ๒๗๖,๓๗๘.๐๘ บาท โทษจำคุกยก ไม่ชำระค่าปรับกักขัง ๑ ปี ริบของกลาง จ่ายรางวัล
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์ เงินกีบคืนจำเลย รองเท้าไม้สตรีของกลางจับได้จากนายประเสริฐเป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต ริบตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักซึ่งสินค้าบางอย่าง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๓ ซึ่งเป็นบทหนัก ยกอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมเงินกีบของกลาง รองเท้าไม้นายประเสริฐถือมาอาจเป็นของนายประเสริฐเอง แต่นายประเสริฐกลัวความผิด จึงปัดว่าเป็นของคนอื่นก็ได้ พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอรับฟังว่าจำเลยนำเงินกีบของกลางเข้ามาจากประเทศลาว และรองเท้าไม่ของกลางก็ฟังไม่ได้ว่าจับได้จากจำเลย พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share