คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4008/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยได้ทำการก่อสร้างเพิ่มเติมโรงภาพยนตร์แล้วมายื่นขออนุญาตต่อกรมโยธาธิการในภายหลัง แม้จะได้รับอนุญาตก็เป็นการอนุญาตที่มิชอบ เมื่อจำเลยร่วมกันกระทำละเมิดโดยใช้สิทธิในทางแต่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง จนโจทก์ทั้งสองได้รับความเดือดร้อนรำคาญ เสียสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจติดต่อกันนับแต่ก่อสร้างเพิ่มเติมเสร็จตลอดมาจนปัจจุบัน คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ โจทก์ทั้งสองมีสิทธิที่จะกำจัดความเดือดร้อนรำคาญให้สิ้นไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337และมีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 446

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๔ เป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์นครสวรรค์รามา จำเลยที่ ๖ เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายโดยมีจำเลยที่ ๗ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เมื่อระหว่างวันที่ ๑พฤศจิกายน ๒๕๒๑ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๒๒ จำเลยทั้งเจ็ดได้ทำการก่อสร้างส่วนที่เพิ่มเติมดัดแปลงโรงภาพยนตร์นครสวรรค์รามาในที่ดินซึ่งติดกับที่ดินและบ้านของโจทก์ มีความสูงถึง ๖ ชั้น ยาว๓๐ เมตร กว้าง ๓ เมตร โดยทำการก่อสร้างทั้งกลางวันและกลางคืนในขณะก่อสร้างตอกเสาเข็มนั้น ได้ส่งเสียงรบกวนโจทก์ ทำให้โจทก์และบริวารไม่เป็นอันหลับนอน และจำเลยทั้งเจ็ดมิได้มีความระมัดระวังที่จะป้องกันอันตรายจากการก่อสร้าง ไม่มีสิ่งปิดกั้นรองรับวัสดุก่อสร้างที่จะตกลงมาในเขตบ้านของโจทก์ในระหว่างการก่อสร้างเป็นเหตุให้เศษวัสดุฝุ่นละอองตกลงมาในบริเวณบ้านของโจทก์ ก้อนหินหล่นมาลงถูกฝาโอ่งฉีก เสาปูนซีเมนต์ของโจทก์หักใช้การไม่ได้บางครั้งคนงานของจำเลยปีนหลังคาบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการรบกวนโจทก์และบริวาร บริเวณบ้านของโจทก์สกปรกต้องจ้างคนกวาดโจทก์ไม่สามารถเปิดหน้าต่างบ้านรับแสงแดดและอากาศบริสุทธิ์โจทก์ที่ ๒ เป็นโรคตาเนื่องจากฝุ่นละอองดังกล่าว ตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น จำเลยยังได้ต่อเติมดัดแปลงโรงภาพยนตร์นครสวรรค์รามาโดยไม่รับอนุญาต กล่าวคือ ได้ขยายโรงภาพยนตร์ตามแบบแปลนเดิมซึ่งห่างจากแนวเขตที่ดินของโจทก์ประมาณ ๓ เมตรก่อสร้างผนังด้านติดกับที่ดินโจทก์ออกมาทางด้านหน้า ห่างจากที่ดินโจทก์ ๑ ศอก และทางด้านหลังซึ่งติดกับที่ดินโจทก์ จำเลยเจาะหน้าต่างปล่อยเป็นช่องว่างช่องต่อระหว่างชั้น ๒ ถึงชั้น ๖ มีกันสาดออกมาทุกชั้น จำเลยติดตั้งพัดลมดูดอากาศทางด้านติดกับที่ดินของโจทก์ ๔ ตัว ชั้น ๓ ด้านที่ติดกับที่ดินโจทก์ทำเป็นห้องสุขาและมีท่อออกมาทางผนังตึกชั้น ๒ ของโรงภาพยนตร์มีช่องลมอยู่ตรงบริเวณห้องนอนของโจทก์ ทำให้อากาศเสียเข้ามาในบ้านของโจทก์ต่อมาเมื่อระหว่างวันที่ ๑๒ ถึงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ จำเลยได้เปิดฉายภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาตก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยทั้งเจ็ดดังกล่าวข้างต้นก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่โจทก์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทรัพย์สินโจทก์เสียหาย โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบแล้ว แต่จำเลยไม่จัดการแต่อย่างใด ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายเนื่องจากโจทก์และบริวารต้องได้รับความเดือดร้อน ทรัพย์สินเสียหายเป็นเงินรวม๑๐๓,๐๐๐ บาท ค่าเสียหายเนื่องจากโจทก์ไม่อาจใช้บริเวณบ้านของโจทก์ และโจทก์ต้องเสียสุขภาพทางกายและจิตใจ นับแต่วันที่ ๑พฤษภาคม ๒๕๒๒ ถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท และต่อไปอีกเดือนละ ๒๕,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะเลิก ให้จำเลยรื้อถอนส่วนที่ต่อเติมดัดแปลงที่ผิดจากแบบแปลนเดิมที่กรมโยธาธิการอนุญาตและทางด้านติดแนวเขตที่ดินโจทก์ให้จำเลยทำการก่อสร้างให้ถูกตามแบบแปลนเดิมที่กรมโยธาธิการอนุญาต ให้จำเลยทั้งเจ็ดชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากความเดือดร้อนรำคาญตั้งแต่วันที่ ๑๒พฤศจิกายน ๒๕๒๑ ถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท และค่าเสียหายเดือนละ ๕,๐๐๐ บาทนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะได้จัดการแก้ไขสถานที่จอดรถและการใช้เสียง ให้จำเลยชดใช้ค่าที่ดินและบ้านของโจทก์ซึ่งราคาตกต่ำเพราะการก่อสร้างของจำเลยเป็นเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๕ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณ
จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๖ และที่ ๗ ให้การว่า การก่อสร้างเพิ่มเติมอาคารโรงภาพยนตร์นครสวรรค์รามานั้น ปัจจุบันจำเลยได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมายจากกรมโยธาธิการและเทศบาลเมืองนครสวรรค์แล้วและก่อสร้างตรงตามแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างเพิ่มเติม จำเลยมิได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ ขณะก่อสร้างจำเลยได้ใช้ความระมัดระวังอย่างวิญญูชนพึงกระทำ และได้กระทำการป้องกันมิให้เศษวัสดุฝุ่นละอองเข้าบ้านโจทก์ โจทก์มิได้รับความเสียหายดังฟ้อง สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายของโจทก์ขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหาย คดียังไม่ขาดอายุความ โจทก์พิสูจน์ความเสียหายไม่ได้แน่ชัด จึงกำหนดค่าเสียหายให้ ๑๐๐,๐๐๐บาท พิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน ๑๐๐,๐๐๐บาท กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ๕,๐๐๐ บาท ส่วนคำขอท้ายฟ้องข้อ ๓ นั้น เป็นเรื่องของเทศบาลจัดการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จึงให้ยกคำขอในส่วนนี้
โจทก์ทั้งสอง จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๖ ที่ ๗ ต่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การก่อสร้างเพิ่มเติมอาคารโรงภาพยนตร์เป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง แต่โจทก์ทั้งสองฟ้องเมื่อเกินหนึ่งปีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๔๘ ส่วนที่ว่าได้กระทำละเมิดตลอดมานั้น พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้แม้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๕ จะมิได้อุทธรณ์ด้วย ก็ให้มีผลถึงจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๕ ด้วย พิพากษากลับให้ยกฟ้องค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๕ เพราะโจทก์ทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากไม่ส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยดังกล่าวและวินิจฉัยว่า จำเลยได้ทำการก่อสร้างเพิ่มเติมแล้วมายื่นขออนุญาตต่อกรมโยธาธิการในภายหลัง แม้จะได้รับอนุญาตก็เป็นการอนุญาตที่มิชอบ เมื่อฟังได้ว่า จำเลยร่วมกันกระทำละเมิดโดยใช้สิทธิในทางแต่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง จนโจทก์ทั้งสองได้รับความเดือดร้อน รำคาญ เสียสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจติดต่อกันนับแต่ก่อสร้างเพิ่มเติมเสร็จตลอดมาจนปัจจุบันจึงไม่ขาดอายุความ โจทก์ทั้งสองมีสิทธิที่จะกำจัดความเดือดร้อนรำคาญให้สิ้นไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๗ และมีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๔๖ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์ทั้งสองเรียกร้องมาเดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะแก้ไขความเดือดร้อนรำคาญให้หมดไปนั้น เห็นว่า มากเกินไปสมควรกำหนดให้เดือนละ ๗,๐๐๐ บาท
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๖ และที่ ๗ร่วมกันรื้อถอนอาคารโรงภาพยนตร์นครสวรรค์รามาเฉพาะส่วนที่สร้างเพิ่มเติมมาชิดเขตที่ดินของโจทก์ทั้งสองมีความกว้าง ๓ เมตรยาวตลอดแนวอาคารโรงภาพยนตร์ดังกล่าวให้คงสภาพเดิมตามแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตในครั้งแรก ให้จำเลยดังกล่าวร่วมกันใช้ค่าเสียหายเดือนละ ๗,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้อง (วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๒๓)เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยดังกล่าวจะรื้อถอนเสร็จ ให้จำเลยดังกล่าวใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ทั้งสองโดยกำหนดค่าทนายความรวม ๑๐,๐๐๐ บาทแทนโจทก์ทั้งสอง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share