คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1364/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ผู้ทำพินัยกรรมได้โอนไปโดยสมบูรณ์ซึ่งทรัพย์สินอันเป็นวัตถุแห่งข้อกำหนดพินัยกรรมใด ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1696 วรรคแรก บัญญัติให้ข้อกำหนดพินัยกรรมนั้นเป็นอันเพิกถอนไปนั้น จะต้องเป็นเรื่องที่การโอนนั้นสมบูรณ์ และมิได้ถูกเพิกถอนในภายหลัง
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกสินเดิมของตนคือที่ดินมีโฉนดพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินให้แก่ ล. ซึ่งเป็นบุตรแล้วต่อมาเจ้ามรดกได้ไปจดทะเบียนโอนทรัพย์ตามพินัยกรรมให้แก่ ล. ผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมดังกล่าว โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีเจ้ามรดก ต่อมาเมื่อสามีเจ้ามรดกบอกล้างนิติกรรมการโอน และฟ้องขอให้เพิกถอนการโอน ซึ่งศาลได้พิพากษาให้เพิกถอนการโอน และเจ้าพนักงานได้แก้สารบาญในโฉนดใส่ชื่อเจ้ามรดกเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตามเดิมแล้วข้อกำหนดพินัยกรรมของเจ้ามรดกจึงยังมิได้ถูกเพิกถอนไป ล. ยังคงมีสิทธิที่จะรับมรดกตามพินัยกรรมในทรัพย์ดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายจ้อยนางแฉ่งเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายมีบุตร๕ คน นางแฉ่งมีบุตรกับนายบ้วนฮ้อสามีเดิม ๔ คน นางแฉ่งและนายจ้อยถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ และ ๒๕๑๐ ตามลำดับ และมีทรัพย์มรดกอันเป็นสินบริคณห์ คือ ที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๐๐, ๑๐๑, ๘๕๕๒ และเรือนแฝด ๕ หลังกับเรือนอีก ๑ หลัง นายจ้อยทำพินัยกรรมยกที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒ รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ที่ ๑ และภริยา ยกที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๐๐ และ ๑๐๑รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ที่ ๒ และภริยา ที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒ส่วนของนายจ้อยครึ่งหนึ่งตกได้แก่โจทก์ที่ ๑ ตามพินัยกรรม ที่เหลืออันเป็นส่วนของนางแฉ่งตกได้แก่ทายาทคนละส่วน ฯลฯ เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๑จำเลยไปขอรับมรดกที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒ เป็นของตนแต่ผู้เดียว และขอรับที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๐๐ และ ๑๐๑ เฉพาะส่วน ณ สำนักงานที่ดินจังหวัด โจทก์ได้ยื่นคำคัดค้าน ขอให้พิพากษาว่าส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒ เนื้อที่ ๔ ไร่๒๐ ตารางวา ที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๐๐ และ ๑๐๑ เนื้อที่ ๓ งาน ตกเป็นของโจทก์ที่ ๑ให้ที่ดินโฉนดที่ ๑๐๐ และ ๑๐๑ เนื้อที่ ๑ ไร่ ๒ งาน ที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒ เนื้อที่๑ งาน ๓๕ ตารางวา ตกเป็นของโจทก์ที่ ๒
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นบุตรนางแฉ่งกับนายบ้วนฮ้อ นางแฉ่งทำพินัยกรรมยกที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒ รวมทั้งบ้านบนที่ดินแปลงนี้อันเป็นสินเดิมของนางแฉ่งให้แก่จำเลยและภริยา นายจ้อยไม่มีสิทธิเอาทรัพย์ของนางแฉ่งไปยกให้บุคคลอื่น ขอให้ยกฟ้อง
ก่อนสืบพยาน นายวิชัยโจทก์ที่ ๒ ขอถอนตัวจากการเป็นโจทก์และนายวิเชียรโจทก์ที่ ๑ กับนายแลจำเลย แถลงขอดำเนินคดีต่อไปเฉพาะที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒ และทรัพย์สินบนที่ดินแปลงนี้เท่านั้น
ศาลชั้นต้นฟังว่า นางแฉ่งและนายจ้อยต่างทำพินัยกรรมไว้คนละฉบับ ที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒ เป็นสินเดิมของนางแฉ่ง นางแฉ่งทำพินัยกรรมยกที่ดินดังกล่าวพร้อมกับสิ่งปลูกสร้างให้จำเลยและภริยาทรัพย์ดังกล่าวจึงตกได้แก่จำเลยและภริยา โจทก์ไม่มีสิทธิอย่างใดในทรัพย์ดังกล่าว พินัยกรรมของนายจ้อยมีผลในเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับที่ดินพิพาท พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่คู่ความไม่โต้แย้งกัน (ชั้นฎีกา) ว่าที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒ เป็นสินเดิมของนางแฉ่ง นางแฉ่งและนายจ้อยถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ และ ๒๕๑๐ ตามลำดับ และต่างทำพินัยกรรมไว้คนละฉบับยกที่ดินดังกล่าวพร้อมกับสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินให้ผู้รับพินัยกรรมต่างคนกันคือ นางแฉ่งยกทรัพย์ให้แก่จำเลยและภริยา นายจ้อยยกทรัพย์อันเดียวกันนี้ให้แก่โจทก์ที่ ๑ และภริยา ต่อมานางแฉ่งโอนที่ดินดังกล่าวตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมให้แก่จำเลยโดยไม่ได้รับความยินยอมจากนายจ้อยสามีนายจ้อยได้บอกล้างนิติกรรมการโอนและฟ้องจำเลยต่อศาล ขอให้เพิกถอนการโอนศาลฎีกาได้พิพากษาให้เพิกถอนการโอน ปรากฏตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๐๕/๒๕๑๑ เจ้าพนักงานได้แก้สารบาญโฉนด ลงชื่อนางแฉ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตามเดิมแล้ว แล้ววินิจฉัยว่า
ประการแรก โจทก์ที่ ๑ ฎีกาว่า แม้ที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ ๘๕๕๒จะเป็นสินเดิมของนางแฉ่ง และนางแฉ่งทำพินัยกรรมยกให้จำเลยก็จริงแต่หลังจากทำพินัยกรรมฉบับดังกล่าวแล้ว นางแฉ่งได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวให้จำเลยโดยสมบูรณ์แล้วก่อนที่นางแฉ่งจะวายชนม์ ถือว่านางแฉ่งได้โอนทรัพย์สินอันเป็นวัตถุแห่งข้อกำหนดในพินัยกรรมไปโดยสมบูรณ์แล้ว พินัยกรรมของนางแฉ่งที่ยกที่ดินแปลงพิพาทให้จำเลยจึงเป็นอันเพิกถอนไปตามมาตรา ๑๖๙๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ศาลฎีกาเห็นว่า ตามมาตรา ๑๖๙๖ วรรคแรก การที่ข้อกำหนดพินัยกรรมจะเป็นอันเพิกถอนไปตามบทมาตราดังกล่าวจะต้องเป็นเรื่องการโอนนั้นสมบูรณ์และมิได้ถูกเพิกถอนในภายหลังดังเช่นในกรณีเรื่องนี้ ฉะนั้นข้อกำหนดพินัยกรรมของนางแฉ่งจึงยังมิได้ถูกเพิกถอนไป จำเลยยังคงมีสิทธิที่จะรับมรดกตามพินัยกรรมในทรัพย์ดังกล่าวได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงต่อไปว่า โรงเรือนบนที่ดินพิพาทเป็นสินเดิมของนางแฉ่ง นางแฉ่งย่อมมีสิทธิทำพินัยกรรมยกให้จำเลยได้ แล้วพิพากษายืน

Share