คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มารดาของผู้ไร้ความสามารถเป็นน้องสาวร่วมบิดามารดาเดียวกันกับยายของโจทก์ ฐานะของโจทก์จึงเกี่ยวข้องเป็นหลานน้าของผู้ไร้ความสามารถ ซึ่งนับว่าอยู่ในลำดับญาติใกล้ชิดกว่าลูกพี่ลูกน้องนับได้เพียงภายในสามชั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 11(2) เสียอีกความเกี่ยวพันระหว่างโจทก์กับผู้ไร้ความสามารถจึงควรนับได้ว่าเป็นญาติสนิท ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1575 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนจำเลยออกจากผู้อนุบาลของนางสาววัน อ่อนลมูล ผู้ไร้ความสามารถ แล้วมีคำสั่งตั้งโจทก์เป็นผู้อนุบาลแทน โดยอ้างเหตุว่าจำเลยไม่เอาใจใส่ดูแลผู้ไร้ความสามารถตามวิสัยและหน้าที่ของผู้อนุบาล โจทก์เป็นญาติสนิทโดยเป็นลูกเรียงพี่เรียงน้องของผู้ไร้ความสามารถและอยู่ในอันดับเดียวกับจำเลย
จำเลยให้การว่า โจทก์กับพวกเอาตัวผู้ไร้ความสามารถไปกักขังไว้ไม่ให้ไปมาหาสู่กับจำเลยเพื่อหาเหตุฟ้องคดี เป็นการแสดงเจตนาร้ายและเจตนาไม่สุจริตต่อผู้ไร้ความสามารถ จึงไม่สมควรจะแต่งตั้งโจทก์เป็นผู้อนุบาล โจทก์มิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสีย มิได้เป็นผู้เสียหายหรือถูกโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่จากจำเลย โจทก์มิได้เป็นบุคคลที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๙ จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้อนุบาลและตั้งโจทก์แทนโจทก์ไม่มีสิทธิจะเสนอคดีเป็นคำร้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์เป็นญาติสนิทของผู้ไร้ความสามารถจึงมีอำนาจฟ้องพฤติการณ์ของจำเลย เชื่อได้ว่ากระทำการโดยไม่สุจริต และโจทก์เป็นบุคคลที่สมควรพิพากษาให้เพิกถอนจำเลยจากการเป็นผู้อนุบาลและตั้งโจทก์เป็นผู้อนุบาลนางสาววัน อ่อนลมูล ผู้ไร้ความสามารถสืบแทน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่เป็นญาติสนิทของผู้ไร้ความสามารถตามกฎหมาย ไม่มีอำนาจร้องขอให้ถอนผู้อนุบาลผู้ไร้ความสามารถตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๗๕ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่า ฐานะของโจทก์เป็นญาติสนิทกับผู้ไร้ความสามารถตามความหมายในมาตรา ๑๕๗๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จึงมีอำนาจร้องขอถอนผู้อนุบาลได้
ข้อเท็จจริงตามบัญชีเครือญาติท้ายฟ้องโจทก์ฟังได้ว่า นางจันมารดาผู้ไร้ความสามารถเป็นน้องสาวนางที นางเจริญมารดาโจทก์เป็นบุตรนางทีโจทก์จึงมีฐานะในทางเป็นหลานของผู้ไร้ความสามารถ โดยเป็นบุตรของนางเจริญซึ่งเป็นลูกผู้พี่ของนางจันมารดาของผู้ไร้ความสามารถ ปัญหาที่จะวินิจฉัยจึงมีว่าความเกี่ยวพันทางญาติระหว่างโจทก์กับนางสาววันผู้ไร้ความสามารถโจทก์เป็นญาติสนิทของผู้ไร้ความสามารถ (คือผู้อยู่ในปกครองของผู้อนุบาล) อันชอบที่จะร้องขอให้ถอนจำเลยซึ่งเป็นผู้อนุบาลออกจากการเป็นผู้อนุบาลของนางสาววันผู้ไร้ความสามารถตามมาตรา ๑๕๗๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้หรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้คำว่าญาติสนิทจะไม่มีบทกฎหมายได้วิเคราะห์ศัพท์ความหมายเป็นการเฉพาะว่าญาติสนิทหมายถึงใครก็ตามแต่เหตุที่จะนำมาเทียบเคียงอันจะถือได้ว่าญาติสนิทหมายถึงใครนั้นเมื่อได้พิเคราะห์ถึงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๑ (๒) ในเหตุการคัดค้านผู้พิพากษา ซึ่งบัญญัติว่าถ้าเป็นญาติเกี่ยวข้องกับคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คือ เป็นลูกพี่ลูกน้องนับได้เพียงภายในสามชั้น ก็อาจถูกคัดค้านในการพิจารณาได้ มาเป็นเหตุผลพิจารณาในเรื่องญาติสนิทแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าฐานะของโจทก์กับนางสาววันผู้ไร้ความสามารถก็ควรนับได้ว่าเป็นญาติสนิทมีผลประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกันได้อยู่แล้วเพราะปรากฏข้อเท็จจริงตามบัญชีเครือญาติว่า นางจันมารดาของนางสาววันผู้ไร้ความสามารถนั้นเป็นน้องสาวร่วมบิดามารดาเดียวกันกับนางทียายของโจทก์ฐานะของโจทก์จึงเกี่ยวข้องเป็นหลานน้าของนางสาววันผู้ไร้ความสามารถซึ่งนับว่าอยู่ในลำดับญาติใกล้ชิดกว่าลูกพี่ลูกน้องนับได้เพียงภายในสามชั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตราดังกล่าวเสียอีก จากเหตุผลดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่าความเกี่ยวกันระหว่างโจทก์กับนางสาววันผู้ไร้ความสามารถนี้จึงควรนับได้ว่าเป็นญาติสนิทตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๗๕ แล้ว
เนื่องจากคดียังมีข้อโต้เถียงกันอยู่ว่า สมควรเพิกถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้อนุบาลผู้ไร้ความสามารถหรือไม่ และสมควรตั้งโจทก์เป็นผู้อนุบาลแทนหรือไม่ ศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัย จึงพิพากษาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามประเด็นที่โต้เถียงกันดังกล่าว

Share