คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4003/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่สั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบทรัพย์มรดกของนางสาวผ.ให้แก่โจทก์ เมื่อปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยปัญหาที่โจทก์ฎีกาต่อไป ศาลฎีกาย่อมมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบทรัพย์มรดกของนางสาว ผัน ณ นคร ผู้วายชนม์ให้แก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา และเพิ่มเติมคำร้องว่ามีเหตุอันสมควรเชื่อว่า โจทก์จะชนะคดีนี้ในศาลสูงอย่างแน่นอน ทั้งจำเลยทำการจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์มรดกโดยไม่สุจริตในลักษณะที่จะก่อความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่โจทก์ เมื่อโจทก์ชนะคดีในศาลสูงแล้วก็จะหมดโอกาสได้รับทรัพย์มรดกตามฟ้องขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องไปยังเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องและแต่งตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการทรัพย์สินเก็บรักษาผลประโยชน์จากทรัพย์พิพาท หรือแต่งตั้งบุคคลที่เห็นสมควรจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของโจทก์ จึงมีคำสั่งให้งดการไต่สวนคำร้องของโจทก์และให้ส่งคำร้อง คำคัดค้านและเอกสารต่างๆ ไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาสั่ง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลฎีกามีคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว คดีจึงไม่มีเหตุตามคำร้องให้ยกคำร้อง
โจทก์ฎีกาคำสั่ง
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าโจทก์ฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่สั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีนั้นแล้วโดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยปัญหาที่โจทก์ฎีกาต่อไป
จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจากสารบบความของศาลฎีกา.

Share