คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400-401/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ต่างฝ่ายต่างด่ากันต่อหน้าธารคำนันเป็นผิดฐานกล่าววาจาลามกอนาจารต่อหน้าธารคำนัน. ฎีกา ต้องแสดงเหตุหรือยกบทกฎหมายไว้โดยชัดแจ้ง

ย่อยาว

จำเลยสำนวนที่ ๑ ต้องหาของพนักงานอัยยการโจทก์ว่าแสดงวาจาลามกอนาจารต่อหน้าธารคำนันและหมิ่นประมาทนางเกตุซึ่งหน้า ส่วนจำเลยสำนวนที่ ๒ ก็ต้องหาของผู้เป็นจำเลยสำนวนที่ ๑ โดยข้อหาและฐานความผิดอย่างเดียวกัน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องสำนวนที่อัยยการเป็นโจทก์ และลงโทษนางเกตุตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๓๓๗(๑) ๓๓๙(๒) ปรับ ๑๒ บาท.
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามรูปคดีปรากฏว่าทั้ง ๒ ฝ่ายต่างด่าว่าโต้ตอบกัน เช่นนี้จำเลยทั้ง ๒ สำนวนย่อมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้า คงจะมีความผิดฐานแสดงวาจาลามกอนาจารต่อหน้าธารคำนันเท่านั้น และในสำนวนที่ ๒ เห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงพิพากษาแก้ให้ปรับนางว่อน ๘ บาท เด็กชายวุ่น ๔ บาท และให้ยกฟ้องสำนวนนางว่อนและเด็กชายวุ่นเป็นโจทก์
นางว่อนและเด็กชายวุ่นฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยต่างด่ากันนั้นขอบแล้ว ส่วนฎีกานางว่อน เด็กชายวุ่นกล่าวแต่ว่าผู้ฎีกาเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องเท่านั้น มิได้แสดงเหตุหรือยกบทกฎหมายขึ้นอ้างอิงแต่ประการใดจึงไม่เป็นฎีกาที่จะรับวินิจฉัยได้ จึงพิพากษายืน.

Share