แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำหนังสือคำแปลภาสาไทยสแดงข้อความเท็ดเพื่อประกอบฉบับภาสาอังกริต ไม่เปนผิดถานปลอมหนังสือ.
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยปลอมแปลงหนังสือภาสาอังกริตของผู้จัดการธนาคารเดอแลงโดจีนซึ่งมีถึงจำเลยไห้เปนหนังสือมอบอำนาดไห้ขายที่ดินของบริสัทและจำเลยได้ทำคำแปลภาสาไทยปลอมประกอบฉบับภาสาอังกริตนั้นด้วยเจตนาจะไห้เปนไบมอบอำนาดขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของบริสัทเครดิตฟองซิเอร์ และจำเลยได้ไช้หนังสือนั้นต่อเจ้าพนักงานผู้มีหน้าทีทำการซื้อขายและโอนกัมสิทธิที่ดิน บอกไห้เจ้าพนักงานจดข้อความที่จำเลยรู้ว่าเปนเท็ดนั้นไนหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน เจ้าพนักงานหลงเชื่อได้จัดการโอนกัมสิทธิที่ดินและสิ่งปลูกส้างของบริสัทไห้แก่ผู้ซื้อไป โดยถือว่าจำเลยเปนตัวแทนของบริสัทเจ้าของที่ดินนั้น และการที่จำเลยบังอาดเอาความที่รู้หยู่ว่าเปนเท็ดไปบอกแก่เจ้าพนักงานว่าจำเลยเปนเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกส้าง และจำเลยประสงค์จะขายที่ดินไห้แก่ผู้อื่น ความจิงที่ดินนั้นเปนของบริสัทเครดิตฟองซิเอร์หาไช่ของจำเลยไม ่เจ้าพนักงานหลงเชื่อจึงจัดการโอนที่ดินและสิ่งปลูกส้างนั้นไห้แก่ผู้อื่น ขอไห้ลงโทส.
จำเลยไห้การต่อสู้ว่าได้ซื้อที่ดินจากธนาคารตัวแทนของบริสัทเปนของจำเลยเองแล้ว.
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๒๓,๒๒๖,๒๒๗ จำคุกเรียงกะทง ๆ ละ ๑ ปี รวม ๓ ปี.
จำเลยอุธรน์ สาลอุะรน์พิพากสาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๒๓ และ ๒๒๖ จำคุกกะทงละ ๖ เดือน รวมเปน ๑ ปี.
โจท จำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่าจำเลยทำคำแปลหนังสือภาสาอังกริตของผู้จัดการธนาคารเดอแลงโดจีนขึ้นเปนความเท็ดต้องถือว่าหนังสือคำแปลสแดงข้อความเท็ด แต่หนังสือนั้นไม่ไช่หนังสือเท็ด คงเปนหนังสือที่จำเลยทำขึ้นเอง ไม่มีไครที่จะเข้าใจว่าเปนหนังสือของบริสัทเจ้าของที่ดินการที่จำเลยเพิ่มเติมข้อความไนคำแปลผิดจากความไนหนังสือภาสาอังกริตของบริสัทจึงไม่เปนความผิดถานปลอมหนังสือและหนังสือคำแปลนั้นก็ไม่ไช่ของปลอม.
ส่วนความผิดถานบอกไห้เจ้าพนักงานจดความเท็ดตามาตรา ๒๒๖ นั้นข้อเท็ดจิงเปนอันฟังได้ว่าจำเลยได้กะทำผิดจิง
จึงพิพากสาแก้ว่าจำเลยไม่ผิดถานปลอมหนังสือตามาตรา ๒๒๓ คงมีความผิดตามมาตร ๒๒๖ ส่วนข้อกำหนดโทสคงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์.