คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 860/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทฟ้องว่ากะบือถูกคนร้ายลักไป ต่อมาจับกะบือได้จากจำเลยโดยจำเลยเปนผู้ร้ายลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเปนของร้าย ขอไห้ลงโทสตาม ม. 293,321. ดังนี้ไม่เปนฟ้องเคลือบคลุม.

ย่อยาว

โจทฟ้องเปน ๓ สำนวนว่า กลางคืนระหว่าง ๑๙-๒๐ มีนาคม ๒๔๘๖ คนร้ายลักกะบือของนายขาว นายเล็ก นายไพทูรย์ไปคนละ ๑ ตัวรุ่งขึ้นเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยกะบือของกลางซึ่งจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเปนของร้าย เวลาไม่ปรากตระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ เดือนเดียวกันนั้นขอไห้ลงโทสตาม ม. ๒๙๓,๒๙๔,๓๒๑.
จำเลยไห้การปติเสธ
สาลชั้นต้นลงโทสจำเลยที่ ๑ ตาม ม. ๓๒๑ จำคุกสำนวนละ ๑ ปี จำเลยที่ ๒ ไห้ปล่อยไป
จำเลยอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสาแก้ไห้ลงโทสจำคุกจำเลยที่ ๑ สองปี
จำเลยดีกาว่าคดีนี้โจทฟ้องหาว่าจำเลยทำผิดทั้งลักทรัพย์และรับของโจรวันเวลาเกิดเหตุก็เปน ๒ เวลา เปนฟ้องเอาเปรียบจำเลยยากที่จำเลยจะต่อสู้นับว่าเปนฟ้องเคลือบคลุม
สาลดีกาเห็นว่า ฟ้องโจทไม่เคลือบคลุมทั้งไม่เปนการยากแก่การต่อสู้คดี เพราะฟ้องโจทกล่าวเปนกิจะลักสนะสแดงวันเวลาที่กะบือถูกลักสแดงระหว่างวันที่ซึ่งจำเลยรับของโจร และเวลาไม่ปรากตโจทก็ว่าเวลาไม่ปรากต
คดีโจทไม่ได้ฟ้องว่าลักทรัพย์และรับของโจรแต่โจทฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรสแดงว่าโจทบันยายข้อความไนฟ้อง จำเลยพอเข้าไจข้อหาได้ดีแล้ว และจะเห็นได้จากฟ้องว่าเวลากะบือถูกลักและเวลาจำเลยรับกะบือไว้ไกล้ชิดกัน เมื่อทางพิจารนาได้ความว่าเวลาลักกับเวลารับ กะบือได้จากจำเลยไกล้ชิดกันมากจนไม่น่าคิดว่าจะมีเวลาเปลี่ยนมือกันได้ สาลก็อาดลงโทสถานลักทรัพย์ หรือรับของโจทก็ได้ไนคดีชนิดนี้ก็เปนการชอบแล้ว ที่โจทจะขอไห้ลงโทสถานไดถานหนึ่ง แล้วแต่สาลจะเห็นสมควนแก่รูปคดี
ฉะนั้นฟ้องโจทจึงไม่เคลือบคลุมพิพากสายืนตาม.

Share