แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
จำเลยออกเช็คเพื่อใช้แทนสัญญากู้. ไม่ใช่ออกเช็คเพื่อชำระหนี้. การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497มาตรา 3.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการร่วมกันทำผิดต่อกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2507 จำเลยทั้งสองร่วมกันออกเช็คของธนาคารแห่งอเมริกา สาขากรุงเทพฯ รวม2 ฉบับ คือฉบับเลขที่เอ็ม 269-118 และเอ็ม 269-120 ลงวันที่สั่งจ่ายเงินวันที่ 20 ธันวาคม 2507 โดยจำเลยทั้งสองร่วมกันลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเงินในเช็คทั้งสองฉบับ สั่งจ่ายเงินฉบับละ 30,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงินสั่งจ่าย 60,000 บาทให้แก่นางอรพรรณ หาญสมบูรณ์เพื่อเป็นการชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดสั่งจ่ายแล้ว ในวันที่ 4 มกราคม 2508 เวลากลางวัน นางอรพรรณหาญสมบูรณ์ได้นำเช็คทั้งสองฉบับไปขึ้นเงิน แต่ธนาคารแห่งอเมริกาปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างว่าบัญชีผู้สั่งจ่ายปิดแล้ว ทั้งนี้โดยจำเลยร่วมกันออกเช็คให้ใช้เงินโดยขณะออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค เหตุเกิดที่ตำบลสามเสนใน อำเภอดุสิต และตำบลสุริวงศ์ อำเภอบางรักจังหวัดพระนคร อนึ่งจำเลยที่ 2 เป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีดำที่ 2721/2509ของศาลอาญา จึงขอให้นับโทษจำเลยที่ 2 ต่อกันด้วย ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นเชื่อว่า นางอรพรรณรับเช็ค 2 ฉบับดังกล่าวไว้เพื่อเป็นประกันเงินกู้ จึงไม่ตรงกับเจตนารมย์ของกฎหมายในข้อที่ว่าจำเลยฝ่าฝืนออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค เอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า แม้จำเลยได้ออกเช็คเพื่อใช้แทนสัญญากู้ก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 แล้ว ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาคดีแล้ว คดีนี้โจทก์ฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งฟังว่าจำเลยออกเช็คเพื่อประกันเงินกู้ กล่าวคือเป็นการออกเช็คให้เพื่อใช้แทนสัญญากู้ ไม่ใช่ออกเช็คเพื่อให้ชำระหนี้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 คำพิพากษาฎีกาที่โจทก์อ้างไม่ตรงกับคดีนี้ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น จึงพร้อมกันพิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์.