คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3994/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้อีกมากน้อยเท่าใดขึ้นอยู่กับการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท จำเลยทั้งสองจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146 จะนำมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาใช้บังคับในกรณีนี้ไม่ได้ เพราะมาตราดังกล่าวบัญญัติให้ผู้ล้มละลายไม่มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนเท่านั้น คำสั่งของกรมบังคับคดี เรื่องการขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นเพียงการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานขายทรัพย์เพื่อให้เป็นไปโดยเรียบร้อยและรวดเร็วเท่านั้น หาใช่เป็นกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติตาม

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านยึดที่ดินของจำเลยที่ 2 ผู้ล้มละลายและขายทอดตลาดได้ในราคา 101,200,000 บาทผู้ร้องและจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่าผู้คัดค้านดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ พ.ศ. 2522 หมวดที่ 8 บทที่ 1 วิธีการขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผู้ซื้อทรัพย์เสนอราคาเพิ่มจากราคาเสนอเดิมเพียง 200,000 บาท ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ว่าราคาที่เสนอตั้งแต่ 80 ล้านบาทขึ้นไปต้องเสนอเพิ่มราคาไม่น้อยกว่าครั้งละ 1 ล้านบาท ราคาทรัพย์ขายทอดตลาดต่ำกว่าราคาท้องตลาดทำให้ผู้ร้องและจำเลยทั้งสองเสียหาย ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและให้ขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทใหม่
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ราคาขายทรัพย์สูงกว่าราคาที่ผู้คัดค้านประเมินไว้จึงเป็นการขายที่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ซื้อทรัพย์เป็นผู้เสนอราคาสูงสุด การสู้ราคาตั้งแต่ระดับ 80,000,000 บาทขึ้นไป ได้มีการเพิ่มราคาสูงขึ้นตามจำนวนราคาที่เป็นไปตามคำสั่งกรมบังคับคดี 252/2530 เมื่อไม่มีผู้ใดเพิ่มวงเงินอีก 1,000,000บาท แต่ผู้ซื้อทรัพย์ได้เพิ่มวงเงินอีก 200,000 บาท เป็นราคาสูงสุดก็ชอบที่จะขายในราคา 101,200,000 บาทได้ ซึ่งตามคำสั่งดังกล่าวและตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมที่ผู้ร้องอ้างนั้นมิได้ระบุห้ามไม่ให้ขายหากเพิ่มราคาสูงสุดไม่ถึง 1,000,000 บาท ดังนั้นการขายทรัพย์พิพาทในราคา 101,200,000 บาท จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 คำสั่งและระเบียบดังกล่าว ขอให้ยกคำร้อง
ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว จึงไม่มีอำนาจคัดค้าน การเสนอราคาขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทได้กระทำโดยชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องและจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องและจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาว่า จำเลยทั้งสองมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ทรัพย์พิพาทหรือไม่ เห็นว่าการที่ผู้คัดค้านขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท เป็นการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หากการกระทำหรือคำวินิจฉัยของผู้คัดค้านในการขายทอดตลาดไม่ชอบ จำเลยทั้งสองย่อมได้รับความเสียหาย เพราะจำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้อีกมากน้อยเท่าใดขึ้นอยู่กับการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท จำเลยทั้งสองจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท จึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146 จะนำมาตรา 22 มาใช้บังคับในกรณีนี้ไม่ได้ เพราะมาตรา 22 บัญญัติให้ผู้ล้มละลายไม่มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนเท่านั้น สำหรับปัญหาว่า การประกาศของเจ้าพนักงานขายเกี่ยวกับการเพิ่มราคาในการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทชอบหรือไม่ เห็นว่า คำสั่งของกรมบังคับคดี เรื่องการขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นเพียงการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานขายทรัพย์เพื่อให้เป็นไปโดยเรียบร้อยและรวดเร็วเท่านั้นหาใช่เป็นกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติตาม การที่เจ้าพนักงานขายกำหนดให้ผู้ประมูลซื้อทรัพย์พิพาทซึ่งมีราคาประเมิน 40,000,000 บาทเพิ่มราคาครั้งละ 200,000 บาท ก็เป็นการถูกต้องตามคำสั่งดังกล่าวแล้ว
พิพากษายืน

Share