แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้ร้องเป็นคู่สัญญาเช่าซื้อทรัพย์ที่ถูกยึด แม้จะชำระค่าเช่าซื้อยังไม่ครบ แต่ในระหว่างสัญญาเช่าซื้อ ผู้ร้องมีสิทธิยึดถือใช้ประโยชน์ตลอดจนต้องรับผิดในความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดแก่ทรัพย์ที่ถูกยึด และเมื่อผู้ร้องชำระค่าเช่าซื้อครบย่อมได้ กรรมสิทธิ์ ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียเมื่อทรัพย์ที่ผู้ร้องเช่าซื้อถูกยึด ถือได้ว่าผู้ร้องถูกโต้แย้งสิทธิในทรัพย์ที่ถูกยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ผู้ร้องจึงร้องขัดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 ผู้ร้องเช่าซื้อทรัพย์ที่ถูกยึดมาและยังใช้เงินไม่ครบ ทรัพย์ที่ถูกยึดเป็นของผู้ให้เช่าซื้อ ไม่ใช่ทรัพย์ของจำเลย ศาลต้องปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดตามคำร้อง
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยไม่ชำระ โจทก์ขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปทำการยึดทรัพย์สินของจำเลยรวม 5 รายการเพื่อบังคับชำระหนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ทรัพย์อันดับที่ 1โทรทัศน์สียี่ห้อโอเรียนขนาด 20 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง และทรัพย์อันดับที่ 5 โต๊ะวางโทรทัศน์จำนวน 1 ตัว ไม่ใช่เป็นทรัพย์ของจำเลยแต่เป็นทรัพย์ซึ่งผู้ร้องเช่าซื้อมาจากห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลแหลมทองพานิช (1982) และอยู่ในความครอบครองของผู้ร้อง ผู้ร้องยังชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบ ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด โจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปล่อยทรัพย์ตามคำร้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า “ผู้ร้องเป็นคู่สัญญาเช่าซื้อทรัพย์ที่ถูกยึด แม้จะชำระค่าเช่าซื้อยังไม่ครบ แต่ในระหว่างสัญญาเช่าซื้อ ผู้ร้องมีสิทธิยึดถือใช้ประโยชน์ตลอดจนต้องรับผิดในความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดแก่ทรัพย์ที่ถูกยึด และเมื่อผู้ร้องชำระค่าเช่าซื้อครบย่อมได้กรรมสิทธิ์ ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสีย เมื่อทรัพย์ที่ผู้ร้องเช่าซื้อมาถูกยึด ถือได้ว่าผู้ร้องถูกโต้แย้งสิทธิในทรัพย์ที่ถูกยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ผู้ร้องจึงร้องขัดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288ในปัญหาที่ว่าสมควรปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดตามคำร้องหรือไม่ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ผู้ร้องเช่าซื้อทรัพย์ที่ถูกยึดมาและยังใช้เงินไม่ครบ ทรัพย์ที่ถูกยึดเป็นของผู้ให้เช่าซื้อ ไม่ใช่ทรัพย์ของจำเลย ศาลต้องปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดตามคำร้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน