คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3967/2551

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกผู้ร้องโดยการลาออกแล้ว จำเลยก็ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเอาเงินค่าหุ้นของจำเลยจากผู้ร้องได้ โจทก์จึงมีสิทธิบังคับเอาแก่สิทธิเรียกร้องในเงินค่าหุ้นของจำเลยได้ เงินค่าหุ้นที่จำเลยซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์ผู้ร้องชำระแก่ผู้ร้องแล้วนั้น แม้จะเป็นเงินทุนของผู้ร้อง แต่จำเลยก็ยังมีสิทธิเรียกร้องเอาคืนได้ ทั้งไม่อยู่ในข้อยกเว้นในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 285,286 แม้จะได้ความว่าจำเลยได้จำนำหุ้นดังกล่าวไว้เป็นประกันเงินกู้กับผู้ร้อง ผู้ร้องก็มีสิทธิเพียงได้รับชำระจากเงินค่าหุ้นที่ถูกอายัดไว้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่นเท่านั้น ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งมอบเงินค่าหุ้นแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระเงิน 238,753 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 200,000 บาท โดยให้ผ่อนชำระเป็นรายเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่า 4,000 บาท แก่โจทก์ แต่จำเลยไม่ชำระโจทก์จึงขอให้บังคับคดี วันที่ 5 สิงหาคม 2545 เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยที่มีอยู่ในสหกรณ์ออมทรัพย์สามัญศึกษาจังหวัดกาฬสินธุ์ จำกัด ผู้ร้องโดยให้ผู้ร้องส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 15 วัน แต่ผู้ร้องไม่ปฏิบัติตาม เจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ศาลหมายเรียกผู้ร้องมาสอบถาม วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547 ศาลชั้นต้นสอบข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยลาออกจากการเป็นสมาชิกผู้ร้องเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2545 จำเลยมีสิทธิได้รับเงินค่าหุ้น 136,400 บาท แต่จำเลยได้จำนำหุ้นเป็นประกันหนี้เงินกู้ผู้ร้องและยังคงเป็นหนี้ผู้ร้อง 80,000 บาท ผู้ร้องจึงหักเงินค่าหุ้นของจำเลยชำระหนี้ผู้ร้องและส่งเงินค่าหุ้นที่เหลือ 56,400 บาท แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีศาลชั้นต้นเห็นว่าผู้ร้องชอบที่จะยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ก่อนในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิจำนำไม่มีสิทธิหักชำระหนี้จากเงินค่าหุ้นของจำเลย จึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งมอบเงินค่าหุ้นของจำเลยอีก 80,000 บาท แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547 ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2544 จำเลยซึ่งเป็นสมาชิกผู้ร้องได้กู้เงินผู้ร้อง 500,000 บาท และจำนำหุ้นของจำเลยมูลค่า 136,400 บาท เป็นประกัน ขณะจำเลยลาออกจากการเป็นสมาชิกผู้ร้อง จำเลยเป็นหนี้เงินกู้ผู้ร้อง 80,000 บาท ผู้ร้องจึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิจำนำ ขอให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้เงินกู้ก่อน
โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547 ที่ให้ผู้ร้องส่งมอบเงินค่าหุ้นของจำเลย 80,000 บาท แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีและให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นที่เกี่ยวกับคำร้องของผู้ร้องลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547 ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์เพียงว่า ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งมอบเงินค่าหุ้นของจำเลยตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งอายัดชอบหรือไม่ เห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกผู้ร้องโดยการลาออกแล้วจำเลยก็ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเอาเงินค่าหุ้นของจำเลยจำนวน 136,400 บาท จากผู้ร้องได้ โจทก์จึงมีสิทธิบังคับคดีเอาแก่สิทธิเรียกร้องในเงินค่าหุ้นของจำเลยดังกล่าวได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยว่า แม้จำเลยจะพ้นจากการเป็นสมาชิกผู้ร้องจำเลยก็ยังไม่มีสิทธิเรียกเอาเงินค่าหุ้นคืนหากจำเลยยังเป็นหนี้ผู้ร้อง ผู้ร้องมีสิทธิหักเงินค่าหุ้นของจำเลยชำระหนี้เงินกู้แก่ผู้ร้องได้โจทก์ไม่มีสิทธิบังคับคดีเอาแก่สิทธิเรียกร้องในเงินค่าหุ้นจำนวนดังกล่าวของจำเลยและผู้ร้องก็ไม่ต้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ก่อนในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิจำนำนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ข้อเท็จจริงในสำนวนไม่ปรากฏว่าจำเลยมีสิทธิเรียกเอาเงินค่าหุ้นจากผู้ร้องต่อเมื่อจำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกผู้ร้องและต้องปราศจากภาระหนี้ที่มีต่อผู้ร้อง ข้อกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยกขึ้นวินิจฉัยดังกล่าวจึงมาจากข้อเท็จจริงที่ไม่ปรากฏอยู่ในสำนวน การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยกข้อกฎหมายดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยจึงไม่ชอบ ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งมอบเงินค่าหุ้น 80,000 บาท แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบแล้ว และเมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้บุริมสิทธิจำนำจำนวน 80,000 บาท ก่อนโจทก์โดยอ้างว่าจำเลยได้จำนำหุ้นไว้เป็นประกันหนี้เงินกู้กับผู้ร้อง ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะรับคำร้องไว้ไต่สวนและมีคำสั่งตามรูปคดี การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงมิได้ฝ่าฝืนกฎหมายดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยและปัญหาตามฎีกาโจทก์ข้อนี้ถือเป็นปัญหาข้อกฎหมายจึงไม่ต้องห้ามฎีกาดังที่ผู้ร้องแก้ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับให้บังคับคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ

Share