คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3966/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ศาลจะวินิจฉัยและมีคำสั่งในคดีเรื่องหนึ่ง ว่าจำเลย ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ แต่เมื่อจำเลยยังไม่ได้ไปจดทะเบียนสิทธิ จำเลยจึงไม่อาจใช้ยันบุคคลภายนอกผู้ได้กรรมสิทธิ์มาโดยสุจริต มีค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทอีกต่อไป และให้จำเลยระงับหรือเพิกถอนการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ตามคำสั่งศาลในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 46/2520 ของศาลจังหวัดนครปฐม ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลจังหวัดนครปฐมมีคำสั่งแสดงว่าที่พิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว ศาลจังหวัดนครปฐมได้ประกาศและทำการไต่สวนคำร้องตามระเบียบแล้ว ไม่มีผู้ใดคัดค้าน จึงได้มีคำสั่งแสดงว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ ดังปรากฏตามสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 46/2520 ของศาลจังหวัดนครปฐม โจทก์จึงได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้

ปัญหาว่า โจทก์หรือจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท

จำเลยฎีกาว่า เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลจังหวัดนครปฐมมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์เมื่อได้มีการโฆษณาและปิดประกาศตามระเบียบแล้ว ไม่มีผู้ใดคัดค้าน ศาลจึงได้ทำการไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของศาลดังกล่าวนั้นได้ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า แม้โจทก์จะไม่อาจฟ้องร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของศาลที่ถึงที่สุดแล้วในคดีดังกล่าวนั้นก็ตาม แต่ผลของคำสั่งศาลที่วินิจฉัยว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยที่จำเลยยังไม่ได้จดทะเบียนสิทธิก็หาอาจนำมาใช้ยันโจทก์บุคคลภายนอกผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทะเบียนซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงเป็นยุติแล้วว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์มาโดยสุจริต มีค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง นั้นได้ไม่ ส่วนที่จำเลยฎีกาอีกประการหนึ่งว่า นายมด ไทรเมือง เจ้าของที่พิพาทเดิมขายฝากที่พิพาทให้แก่โจทก์โดยไม่สุจริตอันเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง จึงไม่อาจนำเอาบทบัญญัติของมาตรา 1299 วรรคสอง ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้ในกรณีคดีนี้ได้ เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อจำเลยไม่ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ ก็ต้องถือตามข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่า นายมดได้ขายฝากที่พิพาทให้แก่โจทก์โดยสุจริต ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 6 ศาลจึงมีอำนาจนำเอาบทบัญญัติของมาตรา 1299 วรรคสอง มาใช้ในกรณีคดีนี้ได้”

พิพากษายืน

Share