คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3963/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งปล่อยที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดไว้ในคดีล้มละลาย โดยอ้างว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์มาตามสัญญาซื้อขาย และผู้ร้องได้ครอบครองเป็นเจ้าของโดยความสงบและเปิดเผยเป็นเวลาเกิน 10 ปี ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์โดยอายุความแล้วนั้นเมื่อการซื้อขายมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 456วรรคแรก และเมื่อปรากฏว่าผู้ร้องเพิ่งมีสภาพเป็นนิติบุคคลนับถึงวันที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังไม่ถึง10 ปี ทั้งไม่มีเวลาครอบครองทรัพย์ของผู้โอนที่จะนับรวมกับผู้ร้องได้ ผู้ร้องไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยอายุความครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมายดังนั้นผู้ร้องจึงขอให้ศาลสั่งปล่อยทรัพย์ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดไว้ไม่ได้.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ทำการยึดที่ดินซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ปลูกอยู่บนที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลายที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด อ้างว่าที่ดินทั้งสองแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของผู้ร้อง แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า เดิมจำเลยที่ 2 ได้นำทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 คือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ถูกยึดไปร่วมลงหุ้นดำเนินกิจการกับห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยอีเล็คตริคเวอรคส์ ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยอีเล็คตริคเวอรคส์ได้ขายกิจการให้แก่ผู้ร้องและได้โอนทรัพย์สินทั้งหมดรวมทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวโดยความสงบ เปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมาเกินกว่า10 ปีแล้ว ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกยึดโดยอายุความตามกฎหมายแล้ว ขอให้มีคำสั่งว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทเป็นของผู้ร้อง และปล่อยทรัพย์ดังกล่าว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คัดค้านว่า ผู้ร้องรับโอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทมาในลักษณะของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เมื่อการซื้อขายนั้นไม่ได้ทำเป็นหนังสือและไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การซื้อขายที่ผู้ร้องอ้างก็ตกเป็นโมฆะ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทจึงยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2อยู่เช่นเดิม ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาท โดยการครอบครองนั้นเป็นเรื่องนอกประเด็นผู้ร้องจะต้องไปร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทเป็นคดีต่างหากไม่ชอบที่ผู้ร้องจะมาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์นั้นในคดีนี้ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหามีว่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทเป็นของผู้ร้องหรือไม่ ผู้ร้องฎีกาว่า เมื่อปี พ.ศ. 2515 จำเลยที่ 2ได้นำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทไปลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยอิเล็คตริคเวอรคส์ และต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยอีเล็คตริคเวอรคส์ได้โอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทให้แก่ผู้ร้องตามสำเนาบิลเงินสด ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2521 ซึ่งผู้ร้องได้ลงบัญชีเป็นสินทรัพย์ของผู้ร้องและผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทโดยความสงบและเปิดเผยสืบต่อจากห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยอิเล็คตริคเวอร์คส์เป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว ดังนี้ เห็นว่าสารบัญจดทะเบียนสำเนาโฉนดที่พิพาทหมาย ร.4 ร.5 นั้น ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2523 จำเลยที่ 2 ได้จดทะเบียนจำนองที่พิพาททั้งสองแปลงดังกล่าวแก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และครอบครองที่พิพาททั้งสองแปลงอยู่ ดังนั้น ที่ผู้ร้องอ้างว่าเมื่อปี พ.ศ. 2515 จำเลยที่ 2ได้นำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทไปลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยอีเล็คตริคเวอรคส์ก็ดี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2521ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยอีเล็คตริคเวอรคส์ได้ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทแก่ผู้ร้องก็ดี จึงรับฟังไม่ได้ เนื่องจากขัดกับหลักฐานทางทะเบียนตามสำเนาโฉนดหมาย ร.4 ร.5 และเป็นการอ้างว่าผู้ร้องซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทโดยมิได้ทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การซื้อขายนั้นตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคแรก นอกจากนี้ผู้ร้องเพิ่งมีสภาพเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2521 ตามเอกสารหมาย ร.1 เมื่อนับถึงวันที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อขอให้ปล่อยทรัพย์ในวันที่ 19 เมษายน 2528 ยังไม่ถึง 10 ปี ทั้งได้วินิจฉัยแล้วว่า รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้นำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทมาลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยอีเล็คตริคเวอรคส์จึงไม่มีเวลาครอบครองของผู้โอนที่จะนำมานับรวมกับของผู้ร้องได้ ผู้ร้องจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทโดยอายุความครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย…”
พิพากษายืน.

Share