แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาระยอง ชักชวนโจทก์ให้เปิดบัญชีเงินฝากประจำที่ธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาสัตหีบ เมื่อสาขาดังกล่าวเปิดทำการเพื่อเป็นผลงานร่วมกัน โดยนำแบบฟอร์มต่าง ๆ ของธนาคาร จำเลยที่ 1 มาให้โจทก์ลงลายมือชื่อ แล้วดำเนินการนำเงินของโจทก์ไปฝากให้ มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์มอบหมายให้ จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนโจทก์ แต่เป็นเรื่องที่โจทก์ให้ความไว้วางใจในฐานะที่จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานของธนาคาร จำเลยที่ 1 ในการบริการความสะดวกให้แก่โจทก์ตามที่ธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาสัตหีบ มอบหมายให้จำเลยที่ 2 ช่วยหาลูกค้าให้
ธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาสัตหีบ ได้รับโอนบัญชีเงินฝากของโจทก์จากธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาพัทยา โดยมิได้ ทักท้วงในเรื่องตัวลูกค้ามิได้มาติดต่อด้วยตนเอง ทั้งมิได้เรียกหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้ามาตรวจสอบเช่นกัน นอกจากนั้นยังปรากฏว่า ธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาสัตหีบ ได้ออกสมุดคู่ฝากให้แก่จำเลยที่ 2 รับไป โดยที่ธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาสัตหีบ ยังมิได้เรียกเก็บสมุดคู่ฝากที่ธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาพัทยาได้ออกให้แก่ลูกค้าคืนจากจำเลยที่ 2 ทันที ถือว่าธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาสัตหีบ มิได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังเช่นผู้มีวิชาชีพอันควร พึงกระทำ จึงเป็นการกระทำประมาทเลินเล่อของธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาสัตหีบ โดยตรง
ธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาสัตหีบ ออกสมุดคู่ฝากแทนสมุดคู่ฝากของโจทก์ตามที่จำเลยที่ 2 แจ้งว่าหายให้แก่ จำเลยที่ 2 ไปโดยไม่ได้ตรวจสอบหลักฐานการแจ้งความ และหลักฐานดังกล่าวก็ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้แจ้งความด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 แจ้งความได้ เป็นเหตุให้จำเลยที่ 2 นำสมุดคู่ฝากที่ออกแทนสมุดที่อ้างว่าหาย ดังกล่าวไปขอเบิกเงินพร้อมขอปิดบัญชีของโจทก์ โดยโจทก์ไม่รู้เห็น ถือว่าธนาคารจำเลยที่ 1 สาขาสัตหีบปฏิบัติ หน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อ โดยไม่ใช้ความระมัดระวังด้วยฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจการของธนาคารอันเป็นอาชีพของตน แม้ลายมือชื่อในใบถอนจะตรงกับตัวอย่างลายมือชื่อในใบตัวอย่างลายมือชื่อ แต่เมื่อโจทก์มิได้รับเงินจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นพนักงานของจำเลยที่ 1 และยังถือสมุดคู่ฝากฉบับเดิมซึ่งยังไม่มี หลักฐานการถอนเงินจากจำเลยที่ 1 โจทก์จึงมีสิทธิ์เรียกให้จำเลยที่ 1 รับผิดคืนเงินฝากดังกล่าวได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ ๒,๓๕๗,๒๗๖.๘๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๒,๑๑๖,๓๕๙.๘๒ บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ ๑ ให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงิน ๒,๑๑๖,๓๕๙.๘๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๓๕ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จทั้งนี้หากจำเลยคนใดชำระเงินแก่โจทก์เพียงใดแล้ว ให้โจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับเอากับจำเลยอีกคนหนึ่งเพียงนั้น
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาในชั้นนี้ตามฎีกาจำเลยที่ ๑ ว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ ๑ หรือไม่ กับจำเลยที่ ๑ จะต้องคืนเงินฝากตามฟ้องแก่โจทก์หรือไม่ ในปัญหาทั้งสองนี้เห็นควรวินิจฉัยไปพร้อมกัน จำเลยที่ ๒ ชักชวนโจทก์ ให้เปิดบัญชีเงินฝากประจำที่ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบ เพื่อเป็นผลงาน แต่เนื่องจากธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบ ยังไม่เปิดทำการ จึงให้เปิดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาพัทยาไว้ก่อน พร้อมกับทำเรื่องขอโอนบัญชีเงินฝากไปยังธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบ ด้วย โจทก์ตกลงจึงปิดบัญชีเงินฝากประจำที่ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาระยองของโจทก์ จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท และมอบเงินให้จำเลยที่ ๒ นำเงินจำนวนดังกล่าวไปเปิดบัญชีที่ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาพัทยา จำเลยที่ ๒ ได้นำเอกสารซึ่งเป็นคำขอเปิดบัญชี ใบตัวอย่างลายมือชื่อและใบขอโอนเงินฝาก ให้โจทก์ลงลายมือชื่อโจทก์ได้ลงลายมือชื่อไว้โดยเอกสารดังกล่าวยังไม่ได้กรอกข้อความ มิใช่โจทก์จะมอบหมายให้จำเลยที่ ๒ เป็นตัวแทนโจทก์ในฐานะที่จำเลยที่ ๒ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโจทก์โดยตรง เพราะโจทก์มีนายมหรรณพ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ ซึ่งเป็นบุตรโจทก์ ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่าจำเลยที่ ๒ ถ้าโจทก์ประสงค์จะให้เป็นตัวแทนโจทก์แล้วก็น่าจะมอบให้แก่นายมหรรณพไปดำเนินการแทนได้ ดังนั้น การที่โจทก์ได้เปิดบัญชีเงินฝากประจำของตนดังกล่าวนั้น จึงเป็นเรื่องโจทก์ให้ความไว้วางใจในฐานะที่จำเลยที่ ๒ เป็นพนักงานของธนาคารจำเลยที่ ๑ ในการบริการความสะดวกให้แก่โจทก์ ตามที่ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบมอบหมายให้จำเลยที่ ๒ ช่วยธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบหาลูกค้าให้
ในการบริการความสะดวกแก่ลูกค้านั้น ปรากฏว่าจำเลยที่ ๒ เพียงแต่นำเงินของโจทก์ คำขอเปิดบัญชีหรือสำเนาเอกสารซึ่งมีลายมือชื่อโจทก์ผู้ขอเปิดบัญชีได้ลงไว้ ใบตัวอย่างลายมือชื่อผู้ขอเปิดบัญชีหรือสำเนาใบตัวอย่าง ลายมือชื่อผู้ขอเปิดบัญชี ซึ่งลายมือชื่อโจทก์ได้ลงไว้และใบขอโอนเงินฝากหรือสำเนาใบขอโอนเงินฝาก ซึ่งมีลายมือชื่อโจทก์ได้ลงไว้ มามอบให้แก่พนักงานของธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาพัทยา ทางธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาพัทยาก็รับ เปิดบัญชีให้แก่โจทก์โดยมิได้เรียกหลักฐานอื่นเช่นบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้าจากจำเลยที่ ๑ มาตรวจสอบหรือยืนยันว่าผู้ฝากเป็นใคร ทั้งธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาพัทยาได้จัดการโอนบัญชีเงินฝากของโจทก์ไปยังธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบ เมื่อธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบเปิดทำการแล้ว โดยธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบได้รับโอนมา โดยมิได้ทักท้วงในเรื่องตัวลูกค้ามิได้มาติดต่อด้วยตนเองทั้งมิได้เรียกหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้า มาตรวจสอบเช่นกัน นอกจากนั้นยังปรากฏว่า ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบได้ออกสมุดคู่ฝากให้แก่จำเลยที่ ๒ รับไป โดยธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบยังมิได้เรียกเก็บสมุดคู่ฝากที่ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบได้ออกให้แก่ลูกค้า การกระทำเช่นนี้ของธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบถือได้ว่ากระทำไปโดยมิได้ปฏิบัติไปด้วยความระมัดระวังเช่น ผู้มีวิชาชีพอันควรพึงกระทำจึงเป็นการกระทำประมาทเลินเล่อของธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบโดยตรง ประกอบกับการที่ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบได้ออกสมุดคู่ฝากแทนสมุดคู่ฝากของโจทก์ตามที่จำเลยที่ ๒ แจ้งว่าหายให้แก่ จำเลยที่ ๒ ไปโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้แจ้งความด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้จำเลยที่ ๒ แจ้งความไว้ อีกทั้งหลักฐานดังกล่าวมิได้ลงลายมือชื่อผู้ขออนุญาต ก็ไม่ปรากฏว่าธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบ ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงข้อพิรุธในส่วนนี้ แต่ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบกลับมอบสมุดคู่ฝากแทนสมุดที่หายให้แก่จำเลยที่ ๒ รับไปในฐานะจำเลยที่ ๒ เป็นพนักงานของจำเลยที่ ๑ พฤติการณ์ในช่วงนี้ถือได้ว่าจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อโดยไม่ใช้ความระมัดระวังด้วยฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจการของธนาคารอันเป็นอาชีพของตน และผลของความประมาทของธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุให้จำเลยที่ ๒ ใช้สมุดคู่ฝากแทนสมุดที่หายที่ตนได้รับและมิได้นำไปส่งมอบให้แก่โจทก์ไปขอเบิกเงินพร้อมกับขอปิดบัญชีของโจทก์ โดยมิให้โจทก์รู้ตัวทันและแม้ลายมือชื่อของใบถอนเงินฝากประจำจะตรงกับใบตัวอย่างลายมือชื่อ แต่เมื่อโจทก์มิได้รับเงินจากจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นพนักงานของจำเลยที่ ๑ โดยที่โจทก์ยังถือสมุดคู่ฝากฉบับเดิมซึ่งยังไม่มีหลักฐานการถอนเงินจากจำเลยที่ ๑ การที่ธนาคารจำเลยที่ ๑ สาขาสัตหีบปฏิเสธการถอนเงินของโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกให้จำเลยที่ ๑ รับผิดตามฟ้องได้ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน .