คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยเป็นพนักงานรับจ่ายพัสดุ ทั่วไป ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแล รักษาพัสดุ ในคลังพัสดุ ถึงแม้ ก. หัวหน้าแผนกวัสดุทั่วไปมีคำสั่งให้จำเลยกับพวกจัดเก็บพัสดุ ในคลังพัสดุ เข้าที่เก็บให้เรียบร้อยก็ตาม แต่โดยหน้าที่ ก. จะต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับพัสดุในคลังพัสดุ โดยตรง ความรับผิดชอบเกี่ยวกับพัสดุ ที่เก็บรักษาไว้ในคลังพัสดุ หาโอนไปยังจำเลยกับพวกที่จัดเก็บไม่ ทั้งจำเลยไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับพัสดุ หัวฉีด ที่หายไปตั้งแต่ต้น การที่หัวฉีด ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในช่องเก็บของให้เรียบร้อยมาตั้งแต่แรกก็ไม่ใช่ความผิดของจำเลย นอกจากนี้ไม่ปรากฏว่ามีคนร้ายงัดคลังพัสดุ แล้วขโมยพัสดุ ไปหรือพัสดุ ได้หายไปในระหว่างที่จำเลยทำหน้าที่พนักงานรับจ่ายพัสดุ หรือในระหว่างที่จำเลยจัดเก็บพัสดุ เข้าที่เก็บ การที่จำเลยไม่รายงานเกี่ยวกับการจัดเก็บพัสดุ ให้ ก. ทราบไม่ใช่ผลโดยตรง อันเป็นเหตุให้หัวฉีด ของโจทก์หายไป ก. สามารถที่จะตรวจตราพัสดุ ในคลังและสั่งให้ผู้อื่นเข้าไปทำหน้าที่แทนจำเลยได้ตลอดเวลา การกระทำของจำเลยจึงหาเป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้หัวฉีด ของโจทก์สูญหายไปไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายกิตติ เอี่ยมบัลลังก์ หัวหน้าแผนกวัสดุทั่วไปของโจทก์ มีคำสั่งให้ลูกจ้างของโจทก์รวมทั้งจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างประจำของโจทก์ตำแหน่งพนักงานรับจ่ายพัสดุภัณฑ์ประจำคลังเก็บพัสดุภัณฑ์ของโจทก์ ช่วยกันจัดเก็บพัสดุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในคลังให้เข้าที่เรียบร้อย เพื่อความสะดวกแก่การเบิกจ่าย และมีคำสั่งให้จำเลยเป็นหัวหน้าจัดเก็บพัสดุจากต่างประเทศ มีนายบุญสืบเฉลิมเกตุ นายเสน่ห์ แสงสุข กับพวกอีก 2 คน เป็นผู้ช่วยในการจัดเก็บพัสดุ จำเลยจะอ่านหมายเลขประจำตัวอะไหล่ให้ผู้ช่วยจำเลยดังกล่าวยกเข้าช่องเก็บ หากหาอะไหล่ตัวใดไม่พบ จำเลยจะต้องบันทึกรายงานแล้วแจ้งให้นายกิตติทราบทุกวัน ในระหว่างเวลาจัดเก็บพัสดุดังกล่าว จำเลยพบเห็นอะไหล่หัวฉีดที่ใช้กับเครื่องจักรผลิตขวดบรรจุอยู่ในลังและวางอยู่กับพื้นในคลังเก็บพัสดุของโจทก์ จำเลยไม่ได้อ่านเลขทะเบียนอะไหล่ให้ผู้ช่วยยกเข้าช่องเก็บและไม่รายงานให้นายกิตติทราบว่าหัวฉีดที่ใช้กับเครื่องจักรผลิตขวดหาไม่พบหรือสูญหายการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน 134,212.50 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า นายกิตติ เอี่ยมบัลลังก์ หัวหน้าแผนกวัสดุทั่วไปมีคำสั่งให้จำเลยจัดเก็บพัสดุภัณฑ์ต่าง ๆ แต่ไม่ได้มีคำสั่งให้จำเลยเป็นหัวหน้าจัดเก็บพัสดุต่างประเทศ และไม่มีคำสั่งให้นายบุญสืบ เฉลิมเกตุ นายเสน่ห์ แสงสุข กับพวกอีก 2 คน เป็นผู้ช่วยการจัดเก็บพัสดุจำเลยได้รายงานการจัดเก็บต่อนายกิตติทุกวันตามระเบียบ จำเลยไม่ได้กระทำละเมิดและไม่ได้ฝ่าฝืนระเบียบต่อโจทก์จำเลยไม่ทราบว่าหัวฉีดที่ใช้กับเครื่องจักรผลิตขวดซึ่งเป็นอะไหล่ต่างประเทศจำนวน 430 ตัว ที่หายไปอยู่ในคลังพัสดุของโจทก์ตั้งแต่เมื่อใด และอะไหล่ดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของหัวหน้าแผนกวัสดุทั่วไป จำเลยไม่มีหน้าที่รับของ สิ่งของที่หายไปจะได้ส่งเข้าคลังพัสดุครบถ้วนหรือไม่ และสิ่งของดังกล่าวได้หายไปตั้งแต่เวลาใดอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ใด จำเลยไม่ทราบ หากจำเลยจะต้องรับผิดก็ไม่มากตามฟ้อง โจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ย และไม่เคยบอกกล่าวให้จำเลยทราบ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า จำเลยเป็นลูกจ้างประจำของโจทก์ ทำหน้าที่เป็นพนักงานรับจ่ายพัสดุทั่วไปมีนายกิตติ เอี่ยมบัลลังก์ หัวหน้าแผนกวัสดุทั่วไปเป็นผู้บังคับบัญชา เมื่อเดือนธันวาคม 2524 นายกิตติมีคำสั่งด้วยวาจาให้จำเลยกับพวกจัดเก็บพัสดุในคลังพัสดุเข้าที่ จำเลยกับพวกทำการจัดเก็บพัสดุเข้าที่เสร็จในเดือนมีนาคม 2525 แต่จำเลยไม่จัดทำรายงานการจัดเก็บพัสดุว่ามีพัสดุใดขาดหายไปบ้าง ต่อมาเมื่อเดือนเมษายน 2525ผู้อำนวยการของโจทก์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและหาผู้รับผิดชอบเรื่องหัวฉีดที่ใช้กับเครื่องผลิตขวดหายไปคณะกรรมการได้ตรวจสอบค้นหาในคลังพัสดุโดยละเอียดแล้ว ปรากฏว่าหัวฉีดที่ใช้กับเครื่องผลิตขวดหายไป 430 ตัว และในเวลาเดียวกันนายกิตติได้สั่งให้จำเลยทำรายงานการจัดเก็บพัสดุ จำเลยได้ทำรายงานเสนอนายกิตติเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2525 ปรากฏตามบันทึกข้อความเอกสารหมาย จ.1 และหัวฉีดที่ใช้กับเครื่องผลิตขวดนั้น กองผลิต 3ของโจทก์ได้เบิกไปครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2524 โดยจำเลยมิได้เป็นผู้จ่าย จำเลยถูกกล่าวหาว่าลักทรัพย์ดังกล่าว แต่พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องจำเลย มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจงใจจหรือประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือไม่เห็นว่าจำเลยเป็นเพียงพนักงานรับจ่ายพัสดุทั่วไปเท่านั้น ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลรักษาพัสดุในคลังพัสดุถึงแม้นายกิตติหัวหน้าแผนกวัสดุทั่วไปมีคำสั่งให้จำเลยกับพวกจัดเก็บพัสดุในคลังพัสดุเข้าที่เก็บให้เรียบร้อยก็ตาม แต่โดยหน้าที่นายกิตติจะต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับพัสดุในคลังพัสดุโดยตรง ความรับผิดชอบเกี่ยวกับพัสดุที่เก็บรักษาไว้ในคลังพัสดุหาโอนไปยังจำเลยกับพวกที่จัดเก็บไม่ นายกิตติเองก็เบิกความรับว่าการสั่งและรับหัวฉีดที่หายไปดังกล่าวไว้นั้นจำเลยไม่ทราบ พยานและบุคคลอื่นอีกหลายคนเป็นผู้รู้ว่าหัวฉีดดังกล่าวเก็บไว้ที่ใด จึงเห็นได้อย่างขัดแจ้งว่าจำเลยไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับหัวฉีดดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น การที่หัวฉีดดังกล่าวไม่ได้อยู่ในช่องเก็บของให้เรียบร้อยมาตั้งแต่แรกก็ไม่ใช่ความผิดของจำเลย นายกิตติจึงต้องควบคุมดูแลการจัดเก็บพัสดุอย่างใกล้ชิด และให้จำเลยกับพวกรายงานการจัดเก็บทุกวัน นอกจากนั้นไม่ปรากฏว่ามีคนร้ายงัดคลังพัสดุแล้วขโมยพัสดุไปหรือพัสดุในคลังพัสดุได้หายไปในระหว่างที่จำเลยทำหน้าที่พนักงานรับจ่ายพัสดุหรือในระหว่างที่จำเลยจัดเก็บพัสดุเข้าที่เก็บ การที่จำเลยไม่รายงานเกี่ยวกับการจัดเก็บพัสดุให้นายกิตติทราบไม่ใช่ผลโดยตรงอันเป็นเหตุให้หัวฉีดของโจทก์หายไป นายกิตติสามารถที่จะตรวจตราพัสดุในคลังและสั่งให้ผู้อื่นเข้าไปทำหน้าที่แทนจำเลยได้ตลอดเวลาการกระทำของจำเลยจึงหาเป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้หัวฉีดที่ใช้กับเครื่องผลิตขวดของโจทก์สูญหายไม่ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์…”
พิพากษายืน.

Share