แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นพนักงานสอบสวนและมีตำแหน่งสารวัตรปกครองป้องกันเข้าไปในบ้านโจทก์เพื่อตามหาตัวโจทก์เกี่ยวกับเรื่องที่จำเลยจับโจทก์ในข้อหามีอาวุธปืนโดย จ. คนเฝ้าบ้านโจทก์อนุญาตให้เข้าไป จำเลยเข้าไปในห้องนอนของโจทก์ เมื่อไม่พบตัวโจทก์ก็ออกมาทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุขตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362,365 และไม่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย มีอาวุธปืนบุกรุกเข้าไปในห้องที่โจทก์ครอบครอง และค้นสิ่งของของโจทก์ โดยไม่มีหมายค้น หมายจับ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 362, 365
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นพนักงานสอบสวนและมีตำแหน่งสารวัตรปกครองป้องกันประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองเลย ได้ไปที่บ้านโจทก์พบนางสาวจำปีคนเฝ้าบ้านโจทก์ นางสาวจำปีเปิดประตูและเปิดไฟให้ จำเลยถามหาโจทก์ นางสาวจำปีเข้าไปในบ้านแล้วออกมาบอกว่าไม่อยู่ จำเลยเดินเข้าไปดูในห้องนอนของโจทก์โดยมีนางสาวจำปียืนอยู่ที่ประตูห้อง เมื่อดูแล้วไม่เห็นโจทก์ จำเลยก็กลับออกมา นางสาวจำปีถามว่ามีอะไรกัน จำเลยว่าเกี่ยวกับเรื่องที่จำเลยจับโจทก์ในข้อหามีอาวุธปืน การที่จำเลยเข้าไปในบ้านโจทก์เพื่อตามหาตัวโจทก์ได้ก็โดยนางสาวจำปีคนเฝ้าบ้านของโจทก์อนุญาตให้เข้าไป จำเลยเข้าไปในห้องนอนของโจทก์เพียงเพื่อตรวจหาตัวโจทก์โดยนางสาวจำปียืนเฝ้าดูอยู่เมื่อไม่พบโจทก์ก็ออกมาทันที ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุข ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362, 365 และไม่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
พิพากษายืน