คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3234/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำบรรยายฟ้องของโจทก์ในความผิดฐานปลอมเอกสารไม่ปรากฏข้อความพอที่จะให้จำเลยรู้ว่าเอกสารที่จำเลยได้แก้ไขวันเดือนปีเกิดของเด็กหญิงน.นั้น เป็นเอกสารอะไร ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 และเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ศาลชั้นต้นก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานออกใบสุทธิให้แก่เด็กหญิงน.ให้ผิดไปจากความเป็นจริงเป็นการปฏิบัติงานโดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งโดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 เป็นผู้สนับสนุน พอที่จำเลยเข้าใจได้แล้วว่าการออกใบสุทธิเป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 1จึงครบองค์ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้ว ไม่เคลือบคลุมแต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโ ทษจำเลยทั้งสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,84, 264, 268 และ 157

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า ข้อหาฐานปลอมเอกสารฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คดีมีมูล ให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา ข้อหาฐานใช้เอกสารปลอมคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คำฟ้องโจทก์ข้อหารวมกันปลอมเอกสารโจทก์มิได้บรรยายว่า จำเลยทั้งสี่สมคบกันแก้ไขหรือปลอมเอกสารฉบับใด ทั้งมิได้ส่งสำเนาเอกสารที่อ้างว่ามีการแก้ไข หรือปลอมให้จำเลย และข้อหาฐานเป็นเจ้าพนังานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก็มิได้บรรยายว่าจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ออกใบสุทธิให้แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเข็งหรือไม่ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอย่างไร ฟ้องโจทก์จึงเคลือบคลุมพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำฟ้องโจทก์ข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารและฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่เคลือบคลุม พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้ใหม่ตามรูปคดี

จำเลยทั้งสี่ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในความผิดฐานปลอมเอกสาร โจทก์บรรยายฟ้องว่า”จำเลยทั้งสี่คนนี้ได้สมคบกันปลอมเอกสาร คือได้แก้ วัน เดือน ปีเกิดของเด็กหญิงหนูวันนา พิมพ์สมาน นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเข็งเลขประจำตัว 1191ความจริงแล้วปรากฏตามบัตรประชาชนฉบับเดิมกับทะเบียนบ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 5ตำบลโพนเขวา อำเภอเมืองศรีสะเกษ เด็กหญิงหนูวันนาเกิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2482 จำเลยทั้งสี่ได้สมคบกันแก้ไข วัน เดือน ปี ของเด็กคนนี้เป็นเกิดวันที่ 21 ธันวาคม2478 แล้วจำเลยที่ 1 ในขณะรักษาราชการแทนครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองเข็ง ก็ได้ออกใบสุทธิให้เด็กหญิงหนูวันนา เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2517 ว่า เด็กหญิงหนูวันนาพิมพ์สมาน เกิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2478 แล้วนำไปแสดงต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ”ตามคำบรรยายฟ้องนี้ ไม่ปรากฏข้อความพอที่จะให้จำเลยรู้ว่าเอกสารที่จำเลยได้แก้ไขวัน เดือน ปีเกิดของเด็กหญิงหนูวันนา พิมพ์สมาน นั้น เป็นเอกสารอะไร ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158เป็นฟ้องเคลือบคลุม และปัญหานี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

ส่วนในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโจทก์บรรยายฟ้องว่า”เมื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งในขณะกระทำความผิดได้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย การที่ออกใบสุทธิไม่ตรงกับข้อเท็จจริงให้เด็กหญิงหนูวันนาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2517 ปรากฏตามใบสุทธิว่า เด็กหญิงหนูวันนาได้ออกจากโรงเรียนเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2496เป็นเวลาล่วงพ้นมาถึง 21 ปี จึงเป็นการปฏิบัติงานโดยมิชอบ เป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งโดยมีจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 เป็นผู้สนับสนุน คือแก้ปีเกิดของเด็กหญิงหนูวันนาจาก พ.ศ. 2482 (ตามบัตรประชาชน) เป็นเกิด พ.ศ. 2478″ กับโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ตอนต้นแล้วว่า “แล้วจำเลยที่ 1 ในขณะรักษาราชการแทนครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองเข็ง ก็ได้ออกใบสุทธิให้เด็กหญิงหนูวันนา เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม2517” ตามคำบรรยายฟ้องนี้โจทก์ยืนยันว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานออกใบสุทธิให้แก่เด็กหญิงหนูวันนาให้ผิดไปจากความเป็นจริง เป็นการปฏิบัติงานโดยมิชอบ อันเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งโดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 เป็นผู้สนับสนุน พอที่จำเลยเข้าใจได้แล้วว่า การออกใบสุทธิเป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ฟ้องโจทก์ครบองค์ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฟ้องโจทก์ในข้อหานี้ไม่เคลือบคลุม

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้ใหม่ เฉพาะในข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบสำหรับจำเลยทั้งสี่

Share