คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3948/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา(ก)

ย่อสั้น

ทนายความผู้ประกันขอเลื่อนคดีมาแล้วครั้งหนึ่งอ้างว่าติดว่าความที่ศาลอื่น ศาลชั้นต้นอนุญาต ครั้นถึงวันนัดครั้งต่อไปทนายความผู้ประกันยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีกอ้างว่า ได้นัดผู้ประกันให้มาเบิกความต่อศาล แต่ผู้ประกันไม่มาและไม่ทราบสาเหตุ แต่ตามคำร้องขอเลื่อนคดีไม่ได้อ้างเหตุจำเป็นอื่นอันไม่อาจก้าวล่วงได้และไม่ได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปจะทำให้เสียความยุติธรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 40 วรรคแรก ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนคดี ผู้ประกันกล่าวอ้างว่า การขายทอดตลาดที่ดินพิพาทเป็นไปโดยไม่สุจริต ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการขายทอดตลาด ผู้ซื้อทรัพย์คัดค้าน ดังนี้ หน้าที่นำสืบตกแก่ผู้ประกัน เมื่อผู้ประกันไม่มีพยานมานำสืบ อีกทั้งได้ความตามสำนวนว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศแจ้งการขายทอดตลาดโดยชอบหลายครั้งไม่มีผู้ใดสนใจเข้าสู้ราคา เมื่อผู้ซื้อทรัพย์สู้ราคาสูงสุดสูงกว่าราคาประเมิน และศาลชั้นต้นเห็นสมควรให้ขายทรัพย์แก่ผู้ซื้อทรัพย์ การขายทอดตลาดจึงเป็นไปโดยชอบแล้ว การยื่นคำร้องของผู้ประกันในคดีอาญาว่าการขายทอดตลาดไม่ชอบ รวมทั้งการอุทธรณ์ฎีกา ไม่จำต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมตาม ป.วิ.อ. มาตรา 252

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์ของผู้ประกันจำเลยเนื่องจากผิดสัญญาประกัน เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของผู้ประกันขายทอดตลาด และมีนายนภินทร เป็นผู้ซื้อได้
ผู้ประกันยื่นคำร้องว่า ผู้ประกันไม่เคยทำสัญญาประกันการขายทอดตลาดไม่ได้แจ้งให้ผู้ประกันทราบ การขายทอดตลาดเป็นไปโดยไม่ชอบ เพราะไม่ได้เคาะไม้ ราคาที่ขายต่ำไป เป็นการขายไม่สุจริตขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท
ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า การขายทอดตลาดเป็นไปโดยชอบและถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นงดไต่สวนคำร้อง ถึงวันนัดทนายผู้ประกันยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่า ติดว่าความที่ศาลอื่น ผู้ซื้อทรัพย์ไม่ค้านศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปไต่สวนพยานผู้ประกันใหม่ถึงวันนัดทนายผู้ประกันยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีก อ้างว่าผู้ประกันไม่มาศาลไม่ทราบสาเหตุ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ประกันไม่สนใจคดี เหตุที่ขอเลื่อนคดีไม่มีเหตุสมควร ประกอบกับผู้ประกันมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ จึงให้งดสืบพยานผู้ประกัน แล้วมีคำสั่งยกคำร้องต่อมาในวันเดียวกันผู้ประกันยื่นคำร้องว่าไม่มีเจตนาประวิงคดีขอให้ไต่สวนพยานผู้ประกันต่อไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้ประกันฎีกาว่า คำร้องขอเลื่อนคดีของผู้ประกันมีเหตุอันสมควรนั้น เห็นว่า ทนายผู้ประกันขอเลื่อนคดีมาครั้งหนึ่งแล้วโดยอ้างว่าทนายผู้ประกันติดว่าความที่ศาลอาญาศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปนัดไต่สวนพยานผู้ประกันในวันที่ 31 มกราคม 2533 เวลา 8.30 นาฬิกา ครั้นถึงวันนัด ทนายผู้ประกันยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีต่อศาลชั้นต้นอีกอ้างว่า ได้นัดผู้ประกันซึ่งจะต้องเบิกความเป็นพยานปากแรกที่ศาลชั้นต้น แต่ปรากฏว่าผู้ประกันยังไม่มาศาลและไม่ทราบสาเหตุ ตามคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายผู้ประกันดังกล่าวไม่มีเหตุผลสมควรที่จะสั่งให้เลื่อนคดีมิได้อ้างเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ และไม่ได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลว่าถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปจะทำให้เสียความยุติธรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วรรคแรก ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2527 มาตรา 3 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 แม้ต่อมาผู้ประกันจะยื่นคำร้องอ้างว่า เหตุที่มาศาลชั้นต้นล่าช้าเนื่องจากสำคัญผิดไปคอยพบทนายที่บ้านบิดาของทนายผู้ประกันข้ออ้างนั้นก็ไม่ใช่เหตุสมควร และไม่ใช่เหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ตามบทกฎหมายดังกล่าว
ที่ผู้ประกันฎีกาว่า ตามคำร้องของผู้ประกันว่าขายทอดตลาดโดยไม่สุจริตไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการขายทอดตลาด กล่าวคือไม่ได้แจ้งการขายให้ผู้ประกันทราบไม่มีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคา ขายไปในราคาต่ำกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดิน และไม่ได้แสดงการตกลงขายด้วยการเคาะไม้หรือกิริยาอย่างอื่น ซึ่งปรากฏตามเอกสารการขายทอดตลาดที่ดินพิพาทอยู่ในสำนวนคดีนี้ ศาลสามารถยกขึ้นวินิจฉัยประกอบคำร้องได้การยกคำร้องของผู้ประกันเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า ผู้ประกันกล่าวอ้างข้อเท็จจริงว่า การขายทอดตลาดที่ดินพิพาทเป็นไปโดยไม่สุจริต ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการขายทอดตลาด ผู้ซื้อทรัพย์คัดค้าน หน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงนั้นตกอยู่แก่ผู้ประกัน เมื่อผู้ประกันไม่มีพยานมานำสืบข้อเท็จจริงให้ได้ความตามคำร้อง ทั้งตามสำนวนไม่ปรากฏว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งและมีการแจ้งการขายทอดตลาดให้ผู้ประกันทราบและมีผู้เข้าสู้ราคาโดยชอบ เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าได้ประกาศขายทอดตลาดที่ดินพิพาทมาหลายครั้งแล้วไม่มีผู้ใดสนใจเข้าสู้ราคา เมื่อผู้ซื้อทรัพย์สู้ราคาสูงสุดสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ก็รายงานต่อศาลชั้นต้นเพื่อพิจารณาว่าสมควรขายให้ผู้ซื้อทรัพย์หรือไม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขายแก่ผู้ซื้อทรัพย์จึงชอบแล้ว แต่การยื่นคำร้องการอุทธรณ์และฎีกาไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 252 ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขโดยสั่งให้ถูกต้องเสียด้วย
พิพากษายืน แต่ให้คืนค่าธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ผู้ประกัน

Share