แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้เข้าทำสัญญารับเหมาก่อสร้างตลาดให้จำเลย แต่ทำไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาและว่าจะดำเนินการก่อสร้างเองต่อไป ถ้ามีเงินเหลือจะคืนให้โจทก์ ให้โจทก์จัดการมอบหมายกิจการก่อสร้างตลาดทั้งหมดให้คณะกรรมการเพื่อเป็นการทุ่นรายจ่ายในการที่จะจัดซื้อต่อไป ฝ่ายโจทก์ก็สนองรับและได้มอบกิจการกับวัสดุก่อสร้างที่เหลืออยู่ ณ ที่ก่อสร้าง และที่โจทก์เก็บไว้ที่อื่นให้คณะกรรมการ ทั้งโจทก์ได้เข้าเป็นลูกจ้างรายวันเพื่อมีโอกาศดูแลควบคุมให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปโดยสมควรและถูกต้อง เพื่อหวังจะได้เงินที่เหลือดังนี้ แสดงให้เห็นว่า มีการตอบแทนกัน ก่อให้เกิดเป็นสัญญาขึ้นใหม่ซึ่งมีผลบังคับได้ มิใช่เป็นเรื่องจะให้เงินโดยเสน่หาอย่างใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญากับจำเลยที่ ๑ รับเหมาก่อสร้างตลาดสด แต่โจทก์ก่อสร้างตลาดไม่เสร็จตามกำหนด จำเลยที่ ๒ มีหนังสือบอกเลิกสัญญาและว่าจะดำเนินการก่อสร้างเองต่อไป ถ้ามีเงินเหลือจะคืนให้ จำเลยสร้างตลาดเสร็จแล้วกลับไม่คืนให้ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยได้บอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้ว ข้อผูกพันระหว่างโจทก์จำเลยตามสัญญาย่อมระงับไป ข้อที่จำเลยกล่าวไว้ในหนังสือเลิกสัญญา มิใช่เงื่อนไขของสัญญาเกิม หรือการบอกเลิกสัญญา แต่เป็นคำมั่นเข้าลักษณะให้ ซึ่งเมื่อไม่ได้จดทะเบียน โจทก์ก็ไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยส่งมอบเงินที่เหลือได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความในหนังสือบอกเลิกสัญญานั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยจะให้เงินแก่โจทก์โดยเสน่หา คือ ให้เปล่าๆ แต่เป็นเรื่องบอกเลิกสัญญาโดยมีข้อเสนอขึ้นมาใหม่ ให้โจทก์มอบหมายกิจการก่อสร้างตลอดจนวัสดุก่อสร้างทั้งหมดที่โจทก์มีอยู่ให้แก่จำเลย เพื่อเป็นการทุ่นรายจ่ายในการที่จะต้องจัดซื้อต่อไป แล้วจำเลยจะคืนเงินที่เหลือจากค่าใช้จ่ายก่อสร้างในงวดที่ ๔ ให้แก่โจทก์ ฝ่ายโจทก์ก็สนองรับโดยนำเหล็กเส้นท่อน้ำฝนปูนซิเมนต์ และสิ่งอื่น ๆ อันเป็นวัสดุก่อสร้างของโจทก์เอง ราคากว่า ๗,๐๐๐ บาท ซึ่งเก็บไว้นอกบริเวณที่ก่อสร้าง มามอบให้แก่คณะกรรมการของเทศบาล เพื่อใช้ในการก่อสร้างส่วน หิน ทราย ปูนขาว นั้นกองทิ้งอยู่ในบริเวณที่ก่อนสร้างตลาดนั้นแล้ จึงไม่ได้ทำการมอบหมายแก่กรรมการ และคณะกรรมการผู้รับมอบสิ่งของก็ได้สั่งให้โจทก์ทำงานโดยเป็นลูกจ้างรายวันของเทศบาลต่อไป ดังที่โจทก์ได้พูดตกลงไว้กับจำเลยที่ ๒ แล้ว โจทก์ก็ได้เข้าเป็นลูกจ้างรายวัน เพื่อได้มีโอกาสดูแลควบคุมกิจการก่อสร้างให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปโดยสมควรและถูกต้อง โดยโจทก์หวังอยู่ว่า เงินที่เหลือจากค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจะต้องตกเป็นของโจทก์ การเสนอของจำเลยและการสนองของโจทก์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า มีการตอบแทนกันก่อให้เกิดเป็นสัญญาขึ้นใหม่อันมีผลบังคับกันได้
พิพากษาแก้ ให้จำเลยที่ ๑ จ่ายเงิน ๑๔,๑๓๐.๐๖ บาท ให้โจทก์