คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3886/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ขับรถยนต์ของจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างชนกับรถยนต์โดยสารปรับอากาศของบุคคลภายนอก คณะกรรมการสอบสวนของจำเลยมีมติว่าโจทก์เป็นฝ่ายประมาท โจทก์จึงทำหนังสือรับสภาพหนี้ยินยอมให้จำเลยหักเงินเดือนและเงินอื่น ๆ ของโจทก์เพื่อชำระหนี้ เกี่ยวกับอุบัติเหตุรายนี้เจ้าของรถยนต์โดยสารปรับอากาศได้ฟ้องโจทก์และจำเลยคดีนี้เรียกค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิด ศาลวินิจฉัยว่าเหตุที่รถชนกันไม่ได้เกิดจากความประมาทของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง ดังนี้การที่จำเลยหักเงินของโจทก์ไว้ตามสัญญารับสภาพหนี้ดังกล่าวชดใช้ค่าเสียหายของรถยนต์จำเลยและค่าช่วยเหลือผู้โดยสารในรถยนต์ของจำเลยที่บาดเจ็บที่จำเลยจ่ายไป จึงเป็นการที่จำเลยได้เงินมาโดยมีมูลจะอ้างกฎหมายได้ คำพิพากษาในคดีระหว่างบุคคลภายนอกกับโจทก์และจำเลยย่อมผูกพันระหว่างบุคคลเหล่านั้นเท่านั้น ความเสียหายของจำเลยที่โจทก์ยอมรับชดใช้ยังคงมีอยู่ หามีผลทำให้การชำระหนี้ของจำเลยกลับเป็นไม่มีมูลจะอ้างกฎหมายได้อีกไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกเงินคืนจากจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอเรียกเงินค่าเสียหายที่จำเลยนายจ้างหักไว้เนื่องจากโจทก์ขับรถยนต์ของจำเลยในทางการที่จ้างชนกับรถยนต์อื่นต่อมาศาลวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ได้ประมาท ทั้งโจทก์และจำเลยไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง จำเลยจึงต้องคืนเงินให้โจทก์ จำเลยให้การว่าในชั้นสอบสวนของจำเลย ปรากฎว่าโจทก์เป็นฝ่ายประมาท และโจทก์ยินยอมรับผิดโดยทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ไว้ ยอมให้จำเลยหักเงินเดือนค่าจ้างและเงินสะสมชดใช้ค่าเสียหาย เป็นการกระทำตามระเบียบข้อบังคับโจทก์จะถือเอาผลคำพิพากษามาเป็นเหตุให้พ้นความรับผิดไม่ได้ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย ตำแหน่งคนขับรถยนต์ โจทก์ขับรถยนต์ของจำเลยชนกับรถยนต์โดยสารปรับอากาศหมายเลขทะเบียนนครปฐม 10-0315จากอุบัติเหตุดังกล่าวจำเลยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโจทก์คณะกรรมการมีมติว่าโจทก์ประมาทให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายที่จำเลยจะต้องได้รับ โจทก์ยอมรับผิดโดยทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้ไว้ว่าโจทก์ยินยอมชดใช้เงินยังไม่ทราบค่าเสียหายที่แน่นอนให้แก่จำเลยโดยวิธีผ่อนชำระด้วยการหักเงินเดือนและยินยอมให้จำเลยหักเงินอื่น ๆของโจทก์ได้อีกด้วย ซึ่งต่อมาจำเลยได้หักเงินเดือน เงินเบี้ยเลี้ยงและเงินสะสมของโจทก์ไว้แล้ว จำนวน 129,083.37 บาท หลังจากที่ศาลแพ่งพิพากษาว่า โจทก์ไม่ได้ประมาทแล้ว จำเลยคืนเงินที่หักไว้ให้โจทก์ เป็นเงิน 10,263.37 บาท คงเหลือเงินที่จำเลยหักไว้จำนวน 118,820 บาท
ข้อที่โจทก์อุทธรณ์ว่า เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่รถชนกันนี้ศาลแพ่งพิพากษาว่ามิได้เกิดจากความประมาทของโจทก์ ดังปรากฏตามคำพิพากษาหมายเลขคดีแดงที่ 16140/2529 คดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้วแม้ว่าก่อนศาลแพ่งมีคำพิพากษาโจทก์ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้จำเลยไว้ก็ตามก็ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย เพราะโจทก์และจำเลยไม่มีหนี้สินต่อกันจึงไม่มีหนี้ให้รับสภาพ จำเลยจึงต้องคืนเงินจำนวน 118,820 บาทหักไว้ให้แก่โจทก์ พิเคราะห์แล้ว หลังจากที่โจทก์ขับรถยนต์ของจำเลยชนกับรถยนต์โดยสารปรับอากาศหมายเลขทะเบียนนครปฐม 10-0315 แล้วจำเลยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโจทก์ คณะกรรมการมีมติว่าโจทก์เป็นฝ่ายประมาทให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายที่จำเลยจะต้องได้รับโจทก์จึงทำหนังสือรับสภาพหนี้ฉบับลงวันที่ 21 มกราคม 2528 ให้กับจำเลยไว้โดยยินยอมให้จำเลยหักเงินเดือนและเงินอื่น ๆ ของโจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้ และข้อเท็จจริงปรากฏว่า เกี่ยวกับอุบัติเหตุรายนี้เจ้าของรถยนต์โดยสารปรับอากาศได้เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์และจำเลยคดีนี้เป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง เรียกค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดศาลแพ่งวินิจฉัยว่า เหตุที่รถชนกันไม่ได้เกิดจากความประมาทของโจทก์พิพากษายกฟ้อง ดังปรากฏตามคดีหมายเลขแดงที่ 16140/2529 ของศาลแพ่งคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ทำหนังสือรับสภาพหนี้ยอมชดใช้ค่าเสียหายของรถยนต์จำเลยจำนวน 98,820บาท และค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่จำเลยจ่ายไปจำนวน 20,000 บาทจำเลยได้หักเงินจำนวนนี้ไว้ด้วยความยินยอมของโจทก์เสร็จสิ้นไปแล้วการที่จำเลยหักเงินของโจทก์ไว้ตามหนังสือสัญญารับสภาพหนี้ดังกล่าวจึงเป็นการที่จำเลยได้เงินมาโดยมีมูลจะอ้างกฎหมายได้ คำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 16140/2529 ของศาลแพ่ง ระหว่างบุคคลภายนอกกับโจทก์และจำเลยที่ว่า เหตุที่รถชนกันไม่ได้เกิดจากความประมาทของโจทก์ก็ผูกพันระหว่างบุคคลภายนอกฝ่ายหนึ่งกับโจทก์และจำเลยอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น แต่ความเสียหายของจำเลยที่โจทก์ยอมรับชดใช้ยังคงมีอยู่ หามีผลทำให้การชำระหนี้ของโจทก์กลับเป็นไม่มีมูลจะอ้างกฎหมายได้อีกไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกเงิน 118,820บาท คืนจากจำเลย ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยประเด็นตามคำแก้อุทธรณ์ของจำเลย
พิพากษายืน

Share