คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3883/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อไม่ปรากฏว่า บ. ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันเกิดเหตุจากเจ้าของเดิมก่อนนำมาทำสัญญาประกันภัยไว้กับโจทก์ จึงไม่อาจรับฟังว่า บ. เป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถคันดังกล่าวขณะที่โจทก์รับประกันภัยไว้ กรมธรรม์ประกันภัยระหว่างโจทก์กับ บ. จึงไม่ผูกพันคู่สัญญา ตาม ป.พ.พ. มาตรา 863 แม้โจทก์จะได้ชดใช้ค่าเสียหายแทน บ. ไปก็ไม่ได้รับช่วงสิทธิตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสาม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน9 ง-6186 กรุงเทพมหานคร จากนายบุญส่ง จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-1293 ภูเก็ต จำเลยที่ 1นำรถยนต์นั้นเข้าแล่นร่วมกับจำเลยที่ 2 เพื่อประโยชน์ร่วมกันจำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ของจำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ดังกล่าวโดยประมาทเลินเล่อชนรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยได้รับความเสียหาย โจทก์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย แล้วรับช่วงสิทธิมาฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ที่ 3 ให้การทำนองเดียวกันว่า โจทก์มิได้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน 9 ง – 6186 กรุงเทพมหานคร จากเจ้าของกรรมสิทธิ์ผู้มีส่วนได้เสีย โจทก์ไม่ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เหตุเกิดจากความประมาทของผู้ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน 9 ง-6128 กรุงเทพมหานคร ค่าเสียหายไม่ถึงจำนวนที่โจทก์ฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า รถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-1293 ภูเก็ตจำเลยที่ 1 เช่าซื้อจากจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือมีผลประโยชน์ในกิจการของจำเลยที่ 1 และไม่ได้เป็นนายจ้างของผู้ขับรถยนต์ดังกล่าว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ได้นำนายบุญส่งมาเบิกความยืนยันว่าได้เช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์บางกอกอินเวสท์เม้นท์ จำกัด มาก่อนที่จะประกันภัยรถคันดังกล่าวไว้กับโจทก์ ทั้งมิได้อ้างสัญญาเช่าซื้อรถคันดังกล่าวมาเป็นพยานแต่อย่างใด ประกอบกับตามสำเนาภาพถ่ายรายการของรถที่จดทะเบียนเอกสารหมาย จ.4 ปรากฏว่านายบุญส่งเพิ่งมาครอบครองรถคันดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2526 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังจากที่โจทก์รับประกันภัยรถคันดังกล่าวไว้จากนายบุญส่งในวันที่ 21 กรกฎาคม 2526ตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.3 ส่วนนางมยุรี พยานโจทก์ซึ่งขับรถคันดังกล่าวในขณะเกิดเหตุก็เบิกความลอย ๆ ว่ารถยนต์คันที่นางมยุรีขับในขณะเกิดเหตุเป็นรถของนายบุญส่ง เมื่อทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏว่านายบุญส่งทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากเจ้าของเดิมก่อนนำมาทำสัญญาประกันภัยไว้กับโจทก์ รูปคดีจึงไม่อาจรับฟังได้ว่านายบุญส่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถคันดังกล่าวขณะที่โจทก์รับประกันภัยไว้ตามกรมธรรม์ประกันภัย เอกสารหมาย จ.3ดังนั้น กรมธรรม์ประกันภัยระหว่างโจทก์กับนายบุญส่งจึงไม่ผูกพันคู่สัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 863แม้โจทก์จะได้ชดใช้ค่าเสียหายแทนนายบุญส่งไปก็ไม่ได้รับช่วงสิทธิตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสาม
พิพากษายืน.

Share