คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3882/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ตกลงเล่นแชร์กับจำเลย จำเลยเป็นนายวงแชร์ เมื่อลูกวงแชร์คนใดเปียแชร์ได้จะได้รับเช็คจากจำเลยซึ่งเก็บมาจากลูกวงแชร์ทุกคนโดยจำเลยลงชื่อสลักหลัง และรับผิดชอบกรณีเช็คดังกล่าวเรียกเก็บเงินไม่ได้ โจทก์เปียแชร์ได้และนำเช็คที่ได้รับจากจำเลยบางฉบับไปชำระหนี้แก่นาย ก.แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ต่อมานาย ก. ถึงแก่กรรมนาง ว. ภริยานาย ก. ฟ้องจำเลยในฐานะผู้สลักหลังให้ชำระเงินตามเช็ค ศาลพิพากษายกฟ้อง โจทก์ชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่นาง ว. ไป เช่นนี้ ถือว่าโจทก์ยังไม่ได้รับเงินค่าแชร์ตามเช็คดังกล่าว จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ตามข้อตกลงในการเล่นแชร์และอายุความของสิทธิเรียกร้องในกรณีผิดสัญญาเล่นแชร์นี้มีกำหนดสิบปี
การที่โจทก์จำเลยมีข้อตกลงกันให้โจทก์นำเช็คที่ได้รับจากการเล่นแชร์ไปเรียกเก็บเงินดังกล่าวนั้นไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ และโจทก์มิใช่คู่ความในคดีที่นาง ว.ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลย ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีที่นาง ว. ฟ้องจำเลยดังกล่าว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ จำเลยตั้งวงแชร์ โจทก์เป็นผู้เล่นด้วยมือหนึ่ง กำหนดประมูลหรือเปียแชร์กันทุกวันที่ ๒๖ ของเดือน และให้ผู้ประมูลได้นำเช็คไปเรียกเก็บเงินในวันที่ ๒ ของเดือนถัดไป หากลูกวงแชร์ประมูลได้และไม่จ่ายเงินแก่ผู้เปียแชร์ได้ถัดมา จำเลยจะรับผิดชอบ การเล่นแชร์ดำเนินมาจนเหลือ ๒ มือคือโจทก์และนายทองดี โจทก์และนายทองดีตกลงกันให้โจทก์นำเช็คที่รับจากจำเลยไปเรียกเก็บเงิน โจทก์ลงวันที่ในเช็คแล้วนำเช็ค ๕ ฉบับไปชำระค่าสินค้าประเภทเครื่องไฟฟ้าแก่นายกนก นายกนกนำเช็คดังกล่าวไปเรียกเก็บเงินธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน นายกนกฟ้องเรียกเงินตามเช็คและได้เงินคืนบางส่วน ต่อมานายกนกถึงแก่ความตาย นางวัณณีภรรยานายกนกนำเช็คที่เหลือ ๓ ฉบับ ฉบับละ ๓๐,๐๐๐ บาท ฟ้องจำเลยในฐานะผู้สลักหลังให้รับผิด ศาลพิพากษายกฟ้อง โจทก์ชำระหนี้ให้นางวัณณีไปแล้วเป็นเงิน ๑๐๓,๘๒๕ บาท จำเลยซึ่งเป็นนายวงแชร์ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาเล่นแชร์ ขอให้พิพากษาบังคับให้จำเลยชำระเงิน ๑๐๔,๔๗๓.๙๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๑๐๓,๘๒๕ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า วงแชร์ได้เลิกไปตามข้อตกลงแล้ว การเล่นแชร์ได้มีการตกลงแปลงหนี้ใหม่โดยให้ถือว่าการชำระเงินให้เรียกเก็บเงินตามเช็คของผู้เล่นแชร์ มูลหนี้ตามสัญญาเล่นแชร์ระงับสิ้นไปแล้ว เช็คตามฟ้องไม่ใช่เช็คจากการเล่นแชร์โจทก์นำไปชำระหนี้นายกนก โจทก์จึงมิใช่ผู้ทรงเช็ค ฟ้องโจทก์ไม่ว่าอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาเล่นแชร์หรือมูลหนี้ตามเช็คขาดอายุความ นางวัณณีในฐานะทายาทผู้รับมรดกของนายกนกได้ฟ้องจำเลยรับผิดตามเช็คทั้งสามฉบับ ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยอีกจึงเป็นฟ้องซ้ำโจทก์ไม่ได้ชำระเงินให้นางวัณณี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๑๐๓,๘๒๕ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ ๑,๒๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ ๑,๐๐๐ บาท แทนโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ตกลงเล่นแชร์กับจำเลยจำเลยเป็นนายวงแชร์ ลูกวงแชร์ที่เปียแชร์ได้จะได้รับเช็คจากจำเลยซึ่งเก็บมาจากลูกวงแชร์ทุกคนโดยจำเลยลงชื่อสลักหลังและจะรับผิดชอบชดใช้เงินหากเช็คเรียกเงินไม่ได้ เช็คตามเอกสารหมาย จ.๑๙ ถึง จ.๒๑ เป็นเช็คที่โจทก์ได้รับจากจำเลยในการเล่นแชร์ เมื่อได้รับแล้วโจทก์นำไปชำระค่าอุปกรณ์ไฟฟ้าให้นายกนกเช็คทั้งสามฉบับธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ต่อมาเมื่อนายกนกถึงแก่ความตายนางวัณณีภรรยานายกนกได้ฟ้องจำเลยในฐานะผู้สลักหลังให้ใช้เงินตามเช็ค ศาลพิพากษายกฟ้อง โจทก์ต้องชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ยให้นางวัณณีไป แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เมื่อเช็คทั้งสามฉบับเป็นเช็คที่โจทก์ได้รับมาจากการเล่นแชร์และโจทก์นำไปชำระหนี้ให้ผู้อื่น แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์ได้ชดใช้เงินตามเช็คไปเช่นนี้ ถือว่าลูกวงแชร์ไม่จ่ายเงินให้โจทก์ผู้เปียแชร์ได้จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ตามข้อตกลงในการเล่นแชร์
ที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความนั้น เห็นว่า อายุความเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องในกรณีนี้ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะจึงมีกำหนดสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๔ โจทก์ได้รับเช็คจากจำเลยในการเล่นแชร์งวดวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๒๓ โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๒๕ ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ที่จำเลยฎีกาว่า การเล่นแชร์มีการออกเช็คเพื่อชำระหนี้อันเกิดจากการเล่นแชร์นั้น จึงถือได้ว่ามีการตกลงแปลงหนี้ใหม่ มูลหนี้ตามสัญญาเล่นแชร์ระงับสิ้นไปและโจทก์ได้รับมอบอำนาจจากนางวัณณี ภรรยานายกนกผู้ตายซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คให้ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลย ศาลมีคำพิพากษา คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์ฟ้องคดีนี้อีก ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำนั้นเห็นว่า โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดโดยอาศัยมูลหนี้ที่จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาเล่นแชร์เนื่องจากเช็คที่โจทก์ได้รับจากจำเลยในการเล่นแชร์เรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็ค การที่โจทก์จำเลยมีข้อตกลงกันให้โจทก์นำเช็คที่ได้รับมาจากการเล่นแชร์ไปเรียกเก็บเงินไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ และโจทก์มิใช่คู่ความในคดีที่นางวัณณีฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลย ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share