แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากสูงอายุเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2529 โจทก์อุทธรณ์ว่าคำสั่งที่จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างให้โจทก์ออกจากงานไว้ก่อนนั้นยังไม่ถือว่าโจทก์พ้นจากการเป็นลูกจ้าง วันที่โจทก์พ้นจากการเป็นลูกจ้างต้องถือเอาวันที่จำเลยออกคำสั่งให้โจทก์กลับเข้าปฏิบัติงานใหม่คือวันที่ 7 สิงหาคม 2532 ดังนี้ อุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังยุติแล้วว่า โจทก์พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากสูงอายุเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม2529 อันเป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินเดือนระหว่างที่โจทก์ถูกสั่งให้ออกจากงานไว้ก่อนระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2529 ถึงวันที่7 สิงหาคม 2532 เป็นเงิน 472,420 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าจ้างตามฟ้องให้แก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้องศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์เกิดเมื่อวันที่8 ตุลาคม 2468 มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปี 2529 จำเลยไม่ได้ต่อเวลาทำงานให้โจทก์ โจทก์ได้พ้นจากตำแหน่งพนักงานเนื่องจากสูงอายุเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2529 จึงฟ้องให้จำเลยจ่ายค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2529 ถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2532 ไม่ได้พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “โจทก์อุทธรณ์ว่า วันที่จะถือว่าโจทก์พ้นจากการเป็นลูกจ้างต้องถือเอาวันที่จำเลยออกคำสั่งให้โจทก์กลับเข้าปฏิบัติงานในตำแหน่งและอัตราเงินเดือนเดิมคือวันที่ 7 สิงหาคม 2532 เพราะคำสั่งที่จำเลยให้โจทก์ออกจากงานไว้ก่อนนั้น ยังไม่ถือว่าโจทก์พ้นจากการเป็นลูกจ้างโจทก์ยังเป็นลูกจ้างจำเลยอยู่ในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2529 ถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2532 อุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังเป็นยุติแล้วว่า โจทก์พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากสูงอายุเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2529 อันเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์