คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่สัญญาจะซื้อขายที่ดินทั้งสองฉบับระบุไว้ชัดแจ้งว่าจำนวนเงินที่จะชำระในวันที่ 25 พฤษภาคม 2530 หรือเลื่อนกำหนดไปชำระในวันที่ 17 สิงหาคม 2530 เป็นส่วนหนึ่งของราคาที่ดินการที่จำเลยนำสืบพยานบุคคลว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินมัดจำจึงเป็นการขัดกับข้อความในสัญญาจะซื้อขายที่ดิน ต้องห้ามมิให้รับฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งเจ็ดทำสัญญาจะขายที่ดินตามโฉนดในราคา3,406,000 บาท ให้แก่โจทก์ โจทก์ได้วางเงินมักจำจำนวน 338,000 บาทและต่อมาได้ชำระเงิน 418,000 บาท โดยตกลงกันว่าเป็นการชำระค่าที่ดินส่วนหนึ่ง เมื่อถึงวันนัดโอนกรรมสิทธิ์ จำเลยทั้งเจ็ดไม่ไปตามนัด จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและขอให้บังคับจำเลยทั้งเจ็ดคืนเงินมัดจำและเงินที่ชำระราคาที่ดิน กับให้ใช้ค่าเสียหาย 500,000 บาท
จำเลยทั้งเจ็ดให้การว่า ได้รับเงินมัดจำจำนวน 338,000 บาทไว้จากโจทก์จริง ส่วนเงินจำนวน 418,000 บาท ก็เป็นเงินมัดจำที่โจทก์ชำระเพิ่มจากเดิม เนื่องจากโจทก์ขอเลื่อนการชำระเงินมัดจำงวดที่สอง และโจทก์จำเลยตกลงกันว่า หากมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินก็ให้ถือว่าเงินจำนวน 418,000 บาทเศษเป็นส่วนหนึ่งของราคาที่ดินแต่โจทก์ไม่ไปรับโอนกรรมสิทธิ์ตามกำหนดนัด จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยทั้งเจ็ดมีสิทธิริบเงินมัดจำ และโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งเจ็ดชำระเงินจำนวน 418,000 บาทให้แก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งเจ็ดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งเจ็ดฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งเจ็ดมีว่า เงินจำนวน 418,000 บาท ที่โจทก์ชำระให้จำเลยทั้งเจ็ดเป็นเงินมัดจำหรือไม่ ตามทางนำสืบของโจทก์ได้ความว่า ในวันทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินโจทก์ได้วางมัดจำจำนวน 338,000 บาท และจะชำระอีกในวันที่ 25 พฤษภาคม 2530 จำนวน 338,000 บาท แต่เมื่อถึงวันนัดในวันที่ 25 พฤษภาคม 2530 โจทก์จำเลยได้เลื่อนไปชำระในวันที่ 17 สิงหาคม 2530 จำนวน 418,000 บาท และได้ทำสัญญาจะซื้อขายกันไว้อีกหนึ่งฉบับโดยระบุไว้ชัดแจ้งว่าเงินที่จะชำระในวันที่ 25พฤษภาคม 2530 หรือเลื่อนกำหนดไปชำระในวันที่ 17 สิงหาคม 2530เป็นส่วนหนึ่งของราคาที่ดิน ที่จำเลยนำสืบพยานบุคคลว่าเงินจำนวน418,000 บาท เป็นเงินมัดจำนั้นเป็นการขัดกับข้อความในสัญญาจะซื้อขายที่ดิน ต้องห้ามมิให้รับฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94(2) พยานจำเลยไม่อาจฟังหักล้างพยานโจทก์ได้ เชื่อว่าเงินจำนวน 418,000 บาท ไม่ใช่เงินมัดจำและเป็นส่วนหนึ่งของราคาที่ดิน ดังนั้นเมื่อสัญญาจะซื้อขายที่ดินเลิกกัน จำเลยทั้งเจ็ดต้องคืนเงินจำนวน 418,000 บาท ให้โจทก์
พิพากษายืน

Share