คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3869/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในเมื่อขณะคนร้ายลักทรัพย์ จำเลยมิได้ร่วมกระทำผิดหรือสนับสนุนการกระทำผิดด้วยแล้ว ดังนี้ การที่จำเลยอยู่ที่บ้าน ล.ในขณะที่คนร้ายนำของที่ลักมาเก็บที่บ้าน ล.นั้น เป็นเหตุการณ์หลังจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์แล้ว จึงไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการลักทรัพย์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,335(1)(3)(7)(8), 336 ทวิ, 357
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(3)(7)(8), 336 ทวิ ประกอบด้วยมาตรา 86 ให้จำคุก 5 ปี คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก3 ปี 4 เดือน ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ได้ความจากนายแล ยอดเกตุ พยานโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่พบของกลางว่า ในคืนนั้นจำเลยมานอนอยู่ที่บ้านนายแลยังได้พูดคุยกันเรื่องเลี้ยงโค ต่อมาก็ได้ยินเสียงแว่ว ๆ ว่า นายณรงค์ศักดิ์ได้นำของมาลงไว้ที่บ้านให้จำเลยช่วยยก นายแลไม่ได้ออกไปดูว่าเป็นของอะไร จนเวลา 5 นาฬิกา นายแลตื่นมาไม่พบจำเลยกับนายณรงค์ศักดิ์ เห็นแต่ของพวกพัดลมตั้งพื้นกับเทปเพลงใส่อยู่ในลัง ต่อมาจำเลยก็พาเจ้าพนักงานตำรวจมายึดของเหล่านั้นไป แสดงว่าในขณะคนร้ายลักทรัพย์จำเลยมิได้ร่วมกระทำผิดหรือสนับสนุนการกระทำความผิดในขณะนั้น แม้หลังจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์แล้ว นายณรงค์ศักดิ์จะนำของที่ลักมาเก็บที่บ้านนายแล ก็เป็นเหตุการณ์หลังจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์แล้วไม่อาจลงโทษในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการลักทรัพย์ดังที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share