คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3863/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวโดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนญวนอพยพ ต่อมาจำเลยหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองมาตรา 39 ให้ถือว่าการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเป็นอันสิ้นสุด ดังนี้เมื่อจำเลยกลับเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรอีกก็ต้องเป็นความผิดตามมาตรา 81 การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายมีคำสั่งอนุมัติให้ถอนชื่อจำเลยจากทะเบียนญวนอพยพคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะการถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพกับการอนุญาตถูกเพิกถอนเป็นคนละกรณีกัน ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับวินิจฉัย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15,215,225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนญวน ได้อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะจำเลยถูกถอนชื่อออกจากทะเบียนญวนอพยพขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 81จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 2 เดือน ปรับ 2,000 บาท รอการลงโทษไว้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้วว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2527 เวลาประมาณ15 นาฬิกา จำเลยซึ่งเป็นคนญวนอพยพได้ไปที่สำนักงานกิจการญวนจังหวัดหนองคายขอเปลี่ยนบัตรประจำตัวคนญวนอพยพจ่าสิบตำรวจปราโมทย์ วรเสนตรวจทะเบียนประวัติของจำเลยแล้วพบว่าจำเลยเป็นคนญวนอพยพครอบครัวที่ 379 อยู่บ้านเลขที่ 917คุ้มโพธิ์ชัย ถนนประจักษ์ ตำบลในเมือง อำเภอหนองคายจังหวัดหนองคาย ถือบัตรประจำตัวเลขที่ นค.1-2590 ได้หลบหนีไปอยู่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาวเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2525นายกุศล ศานติธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้อนุมัติให้ถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพ สำนักงานกิจการญวนจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2525 ตามบันทึกข้อความเรื่องขออนุมัติถอนชื่อคนญวนอพยพออกจากทะเบียนญวนอพยพเอกสารหมาย จ.2 บัตรประจำตัวของจำเลยขาดต่ออายุตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2525
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 81 บัญญัติว่า คนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอนต้องระวางโทษ ฯลฯ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวโดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนญวนอพยพและมีบัตรประจำตัวเลขที่ นค.1-2590 ต่อมาจำเลยหลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองมาตรา 39 ให้ถือว่าการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเป็นอันสิ้นสุด เมื่อจำเลยกลับเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรอีก ก็ต้องเป็นความผิดตามมาตรา 81 ที่เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้องการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายมีคำสั่งอนุมัติให้ถอนชื่อจำเลยจากทะเบียนญวนอพยพตามเอกสารหมาย จ.2 คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะการถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพกับการอนุญาตถูกเพิกถอนเป็นคนละกรณีกัน ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 มาตรา 215 และมาตรา 225 ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย”

Share