คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1445/2540

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151 ไม่ได้กำหนดให้คืนค่าธรรมเนียมศาลในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความตามมาตรา 198 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 132(2) จึงไม่ต้องคืนค่าธรรมเนียมศาลให้แก่โจทก์

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้เงินกู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แต่โจทก์ไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 วรรคสอง ต่อมาโจทก์ยื่นคำแถลงขอรับเงินค่าฤชาธรรมเนียมคืน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่ากรณีเป็นการสั่งจำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 ศาลไม่มีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลเนื่องจากมิใช่กรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151 ยกคำแถลง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีข้อวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ศาลจะต้องสั่งคืนค่าธรรมเนียมศาลให้แก่โจทก์หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้จำหน่ายคดีนี้ออกเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 วรรคสองนั้น เป็นคำสั่งที่อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(2)ด้วย ถึงแม้มาตราดังกล่าววรรคแรกจะบัญญัติให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีกำหนดเงื่อนไขในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมตามที่เห็นสมควร แต่บทบัญญัติที่ว่านี้ก็เป็นเรื่องที่ให้ศาลใช้ดุลพินิจว่าสมควรจะสั่งกำหนดเงื่อนไขในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมหรือไม่ และหากศาลจะมีคำสั่งดังกล่าวคำสั่งนั้นก็ต้องไม่ขัดแย้งกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 151 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ซึ่งบัญญัติถึงเงื่อนไขในการคืนค่าธรรมเนียมศาลไว้โดยเฉพาะ ดังนี้เมื่อบทบัญญัติมาตรา 151 ดังกล่าวไม่ได้กำหนดให้คืนค่าธรรมเนียมศาลในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 132(2) ดังกล่าวข้างต้นจึงไม่ต้องคืนค่าธรรมเนียมศาลให้แก่โจทก์ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาต้องกันไม่คืนค่าธรรมเนียมศาลให้แก่โจทก์นั้นชอบแล้ว”

พิพากษายืน

Share