คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3862/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคู่มือพนักงานของบริษัทจำเลย ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ได้ออกข้อกำหนดห้ามพนักงานประกอบหรือร่วมกับบุคคลอื่นประกอบธุรกิจที่บริษัทจำเลยได้กระทำอยู่ และเป็นการแข่งขันกับธุรกิจของบริษัทจำเลย ไม่ว่าจะได้กระทำในหรือนอกเวลาปฏิบัติงานของบริษัทจำเลยก็ตาม หรือจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม พนักงานซึ่งกระทำการดังกล่าวก็ย่อมมีความผิดทั้งสิ้น กรณีคงมีข้อยกเว้นให้กระทำได้ต่อเมื่อรับอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากจำเลยเพียงประการเดียวเท่านั้น ดังนั้นเมื่อโจทก์ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทจำเลยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการประกอบผลไม้แช่แข็งกับห้างอื่น อันเป็นธุรกิจที่บริษัทจำเลยประกอบอยู่และเป็นการแข่งขันกับธุรกิจของบริษัทจำเลย โจทก์ก็ย่อมมีความผิดตามคู่มือพนักงานอันเป็นกรณีร้ายแรงแล้วการที่บริษัทจำเลยเลิกจ้างโจทก์ จึงเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ต่อมาจำเลยได้เลิกจ้างโจทก์ โดยอ้างว่าในระหว่างเวลาทำงานของจำเลย โจทก์ได้ร่วมประกอบธุรกิจที่เป็นการแข่งขันกับกิจการของจำเลย ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการเลิกจ้างโดยโจทก์มิได้กระทำความผิด ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า กับไม่จ่ายค่าชดเชย และเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย ค่าเสียหาย และเงินรางวัลปลอบใจพนักงานในการทำงานประจำปีพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัท จำเลยมีวัตถุประสงค์ทำการค้าระหว่างประเทศทั้งนำเข้าและส่งออก อาหารกระป๋อง ผลไม้สด ผลไม้กระป๋อง ผลไม้แช่แข็งฯลฯ พนักงานของจำเลยจะต้องไม่ประกอบธุรกิจ หรือมีส่วนร่วมในการประกอบธุรกิจที่เป็นการแข่งขันกับจำเลยโดยเด็ดขาด เหตุที่เลิกจ้างโจทก์เนื่องจากโจทก์กระทำความผิดร้ายแรง โดยฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับดังกล่าวด้วยการให้ความช่วยเหลือแก่ห้างอื่นผลิตสินค้าประเภทผลไม้แช่แข็ง อันเป็นสินค้าที่จำเลยเคยผลิตส่งไปขายยังต่างประเทศมาก่อนแล้ว การเลิกจ้างของจำเลยจึงเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์ให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีในการผลิตมังคุดปาดแช่แข็งให้กับห้างอื่นและช่วยเลือกซื้อมังคุดด้วย แต่กระทำนอกเวลาทำงาน โดยได้รับผลประโยชน์ในอัตราร้อยละห้าของราคาสินค้าก่อนผลิต เป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมประกอบธุรกิจค้าผลไม้แช่แข็งอันเป็นการแข่งขันกับกิจการของจำเลย จึงเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ตามคู่มือพนักงานของจำเลยเอกสารหมาย ล.๑ ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระหว่างโจทก์จำเลยได้มีความในบทที่ ๕ ระเบียบข้อบังคับของพนักงาน ข้อ ๕.๑๓ กำหนดไว้ในวรรคแรกห้ามพนักงานของจำเลยเข้าไปร่วมกระทำกิจการในธุรกิจอันหนึ่งอันใดซึ่งเป็นธุรกิจที่มิใช่ของจำเลยในระหว่างเวลาปฏิบัติงาน ตามที่จำเลยได้กำหนดไว้ โดยไม่ต้องคำนึงว่าธุรกิจนั้นจะเป็นธุรกิจเดียวกับที่จำเลยได้ประกอบอยู่หรือไม่ และไม่ต้องคำนึงว่าจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ ส่วนในวรรคสองห้ามพนักงานของจำเลยประกอบหรือร่วมกับบุคคลอื่นประกอบธุรกิจที่จำเลยได้กระทำอยู่ และเป็นการแข่งขันกับธุรกิจของจำเลย ไม่ว่าจะได้กระทำในเวลาหรือนอกเวลาปฏิบัติงานของจำเลยก็ตาม หรือจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม ย่อมมีความผิดทั้งสิ้น กรณีคงมีข้อยกเว้นต่อเมื่อได้รับอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากจำเลยเพียงประการเดียวเท่านั้น ดังนั้นเมื่อโจทก์เข้าไปมีส่วนร่วมในการประกอบผลไม้แช่แข็งกับห้างหุ้นส่วนจำกัดมารูไทยอันเป็นธุรกิจที่จำเลยประกอบอยู่และเป็นการแข่งขันกับธุรกิจของจำเลย โจทก์ย่อมมีความผิดตามคู่มือพนักงาน อันเป็นกรณีร้ายแรงแล้ว การเลิกจ้างของจำเลยจึงเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม
พิพากษายืน.

Share