คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วม ซึ่งเงินส่วนหนึ่งในเช็คพิพาทเป็นการชำระหนี้เงินกู้ยืมตามสัญญากู้ซึ่งมีผลบังคับได้ตามกฎหมาย และจำนวนเงินอีกส่วนหนึ่งเป็นการชำระหนี้เงินกู้ยืมซึ่งมิได้มีการทำหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือไว้การกู้ยืมเงินจำนวนดังกล่าวจึงไม่อาจฟ้องร้องบังคับคดีได้ การออกเช็คพิพาทดังกล่าวมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายซึ่งไม่เป็นความผิดตามกฎหมายรวมอยู่ด้วยในเช็คฉบับเดียวกัน และไม่อาจแบ่งแยกกันได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ซึ่งเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง จำเลยจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นางอรุณ มณีจันทร์ ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุก3 เดือน 15 วัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1ได้มีพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534ออกมาใช้บังคับซึ่งตามพระราชบัญญัติฉบับหลังนี้ มาตรา 3 ได้ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497และมาตรา 4 บัญญัติว่า ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีลักษณะ หรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ (1)… นั้น ฯลฯ คดีนี้ตามข้อนำสืบของโจทก์และโจทก์ร่วมปรากฏว่าเงินส่วนหนึ่งในเช็คพิพาทจำนวน 40,000 บาท โจทก์ร่วมและจำเลยได้มีสัญญากู้ต่อกันซึ่งมีผลบังคับตามกฎหมาย แต่มีเงินอีกจำนวน 30,000 บาท ซึ่งจำเลยกู้จากโจทก์แต่มิได้มีการทำหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือไว้ การกู้ยืมเงินจำนวนดังกล่าว จึงไม่อาจฟ้องร้องบังคับคดีได้ การออกเช็คพิพาทมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายซึ่งไม่เป็นความผิดตามกฎหมายรวมอยู่ด้วยในเช็คพิพาทฉบับเดียวกันและไม่อาจแบ่งแยกกันได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง จำเลยพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง
พิพากษายืน

Share