คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานมีและจำหน่ายเฮโรอีนคนละจำนวนอันเป็นความผิดหลายกระทงซึ่งตามกฎหมายต้องเรียงกระทงลงโทษ แต่ศาลชั้นต้นกลับพิพากษาวางบทลงโทษรวมกันมาให้จำคุกจำเลย 5 ปี เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 7 ปี 6 เดือน เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลย ศาลฎีกาจึงจะลดโทษจำเลยหนักกว่าที่ศาลชั้นต้นลงโทษไว้มิได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตและได้ขาย จำหน่ายหรือจ่ายแจกซึ่งเฮโรอีนดังกล่าว ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอาญาให้จำคุก 6 เดือน ฐานผิดพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษมาแล้ว ขอให้เพิ่มเติมและลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 ฯลฯ และริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษว่าจริงดังฟ้อง

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยมีและจำหน่ายเฮโรอีนจริงดังฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 4, 4 ทวิ,14, 20 ทวิ, 20 ตรี, 23, 26, 27, 28, 29 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2479 มาตรา 9, 10, 11 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2502 มาตรา 3, 6, 8 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 3, 4, 5, 6, 7, 12 ให้จำคุกจำเลย 5 ปี เพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษอีกกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 7 ปี 6 เดือน และให้ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์ยังเป็นที่สงสัย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง คืนธนบัตรชนิดสิบบาทของกลาง 4 ฉบับแก่เจ้าของ ส่วนเฮโรอีนของกลางเป็นของผิดกฎหมายให้ริบ

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมาฟังได้ว่าจำเลยมีเฮโรอีน 2 หลอดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และได้จำหน่ายเฮโรอีน 1 หลอดให้แก่สายลับด้วย

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ตรี ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 7 และผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 6 ควรต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลย แต่คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาวางบทลงโทษรวมกันมาให้จำคุกจำเลย 5 ปี เพิ่มโทษจำเลยกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 7 ปี 6 เดือน โจทก์มิได้อุทธรณ์ ศาลฎีกาจะลงโทษจำเลยหนักกว่านั้นมิได้ กำหนดโทษจึงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share