คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3848/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธ ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเนื่องจากเป็นการอุทธรณ์คำสั่ง ระหว่างพิจารณา ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของศาลอุทธรณ์นี้ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินอันเป็นทรัพย์มรดกของนายเต็ง เขมกรรม ที่จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายเต็ง เขมกรรมได้จดทะเบียนโอนให้แก่จำเลยที่ 2 ถึง ที่ 6 และให้นำที่ดินดังกล่าวมาแบ่งให้แก่โจทก์ทั้งห้าและถอนจำเลยที่ 1 จากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายเต็ง เขมกรรม แล้วตั้งโจทก์ที่ 1เป็นผู้จัดการมรดกแทน
ก่อนครบกำหนดยื่นคำให้การ จำเลยทั้งหกยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การออกไปอีก 30 วันอ้างว่าจำเลยทั้งหกเพิ่งแต่งทนายความในวันยื่นคำร้องทนายจำเลยทั้งหกยังไม่ทราบข้อเท็จจริงและรายละเอียด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษ จึงไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำให้การ ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งหกอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยเป็นการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 226(1) จึงไม่รับอุทธรณ์
จำเลยทั้งหกอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งหก
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำให้การแก่จำเลยทั้งหกเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์จนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งหกชอบแล้วให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งหกฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “เมื่อคู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ ให้ศาลส่งคำร้องเช่นว่านั้นไปยังศาลอุทธรณ์โดยไม่ชักช้าพร้อมด้วยคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีของศาลชั้นต้นและฟ้องอุทธรณ์ ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นเป็นการจำเป็นที่จะต้องตรวจสำนวน ให้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ ในกรณีเช่นนี้ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ คำสั่งนี้ให้เป็นที่สุด แล้วส่งไปให้ศาลชั้นต้นอ่าน”ดังนั้น การที่จำเลยทั้งหกยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งหก เนื่องจากเป็นการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา แล้วศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 3 จึงเป็นที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236 ดังกล่าว จำเลยทั้งหกฎีกาต่อไปอีกไม่ได้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาจำเลยทั้งหก คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้จำเลยทั้งหก

Share