แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเรียกร้องค่าเสียหายในฐานละเมิด ในมูลอันเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ให้นับอายุความทางอาญาที่ยาวกว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตาม มาตรา 448 วรรคสองนั้นหมายความเฉพาะการเรียกร้องจากตัวผู้กระทำผิดหรือผู้ร่วมในการกระทำผิดโดยเฉพาะมิได้หมายความถึงผู้อื่นที่มิได้มีส่วนร่วม ในการกระทำผิดด้วย(ประชุมใหญ่ ครั้งที่1,2,3/97)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2492 จำเลยที่ 1 ขณะกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ขับรถยนต์โดยสารด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังชนและทับนายประทุม สุมนเตมีย์สามีโจทก์ถึงแก่ความตาย พนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลยที่ 1 ต่อศาลศาลพิพากษาจำคุก3 ปี โดยฟังว่าขับรถยนต์ด้วยความประมาทชนนายประทุมตายจริง จำเลยที่ 2 ที่ 3 ต้องรับผิดในความเสียหายของโจทก์ในฐานะเป็นนายจ้างจำเลยที่ 1 ด้วย คือ จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของและนำรถคันนี้เข้าร่วมประกอบการขนส่งรับส่งคนกับจำเลยที่ 3 โดยตกลงแบ่งผลประโยชน์ต่อกัน จำเลยที่ 3 เป็นบริษัทจำกัดทำการรับส่งคนโดยสารซึ่งมีรถยนต์ของจำเลยที่ 3 เอง และรถของผู้อื่นนำเข้ามาร่วมด้วยในลักษณะหุ้นส่วน โจทก์จึงขอให้จำเลยร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ เป็นเงิน 113,600 บาทกับดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ 2-3 ปฏิเสธความรับผิด และต่อสู้ว่าคดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรค 1
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 3 ให้จำเลยที่ 1-2 ใช้เงิน 30,400 บาท กับดอกเบี้ยแก่โจทก์
โจทก์และจำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีเฉพาะจำเลยที่ 2-3 ขาดอายุความพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 ด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกามีมติในที่ประชุมใหญ่ว่า การเรียกร้องค่าเสียหายในฐานละเมิด โดยปกติผู้เสียหายพึงมีสิทธิเรียกร้องภายใน 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรค 1 ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหายในมูลอันเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา จึงให้นับอายุความทางอาญาที่ยาวกว่า ดังที่ปรากฏในวรรค 2 นั้นหมายความเฉพาะการเรียกร้องจากตัวผู้กระทำผิดหรือผู้ร่วมในการกระทำผิดโดยเฉพาะ มิได้หมายความถึงผู้อื่นที่มิได้ร่วมในการกระทำผิดด้วย ฉะนั้นการเรียกร้องเอาแก่จำเลยที่ 2-3 จึงต้องนับอายุความตามวรรค 1 คือ 1 ปี การที่โจทก์มาฟ้องคดีเกินกำหนด 1 ปี โดยมิได้สืบแสดงให้เห็นว่าเพิ่งรู้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ที่จะพึงต้องรับใช้ค่าเสียหายเช่นนี้ต้องถือว่าคดีขาดอายุความ ฯลฯ
จึงพิพากษายืน