คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาซื้อข้าวกัน 1000 กระสอบ แล้วส่งคนเอาเรือเอี้ยมจัดการขนข้าวจากโกดังที่บรรทุกลงเรือพอบรรทุกลงได้ 716 กระสอบ ก็ถูกจับต้องฟังว่า จำเลยได้ยักข้าว 716 กระสอบจากที่เก็บ ฝ่าฝินประกาศคณะการปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว 2489 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดยักย้ายข้าวจากสถาน ฯลฯ เป็นความผิดสำเร็จตาม พ.ร.บ.การค้าข้าวตามมาตรา 17 ซึ่งได้แก้ไขเติมโดยฉบับที่ 2 พ.ศ.2489 ว่า 10 ข้าว 716 กระสอบซ้ายแล้ว ก็ตกเป็นข้าวที่ซึ่งต่อเนื่องกับความผิด ซึ่งตามมาตรา 21 ทวิ บัญญัติให้ริบเสีย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทั้งสามบังอาจสมคบกันยักย้ายข้าวสาร ๗๑๖ กระสอบหนัก ๗๑,๖๐๐ กิโลกรัมจากสถานที่เก็บ ตำบลบางรัก จังหวัดพระนคร ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ๒๔๘๙ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ๒๔๘๙ มาตรา ๘,๑๗ และฉบับที่ ๒ พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๔,๑๐ ,๑๒ กับขอให้ริบข้าวสารของกลาง
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า บริษัทฮั่วเซ่งล้งได้ทำสัญญาซื้อข้าวสาร ๑๐๐๐ กระสอบจากบริษัทซุ่นเฮงหลี จำเลยทั้งสามเป็นคนของบริษัทฮั่วเซ่งล้ง ได้นำเรือเอี้ยมจุ๊นสองลำมาเทียบท่าหน้าบริษัทซุ่นเฮงหลี ห่างโกดังอันเป็นสถานที่เก็บข้าว ๒๐ วา แล้วบริษัทซุ่นเฮงหลีและจำเลยทั้งสามจัดการให้คนงานเอากระสอบบรรจุข้าวในโกดังนั้นแล้วขนลงไปบรรทุกเรือเอี้ยมจุ๊นจนเต็มลำหนึ่ง ส่วนอีกลำหนึ่งบรรทุกได้ครึ่งลำ เจ้าพนักงานก็มาตรวจพบว่าเป็นการยักย้ายข้าวสารจากสถานที่เก็น ผิดประกาศและคณะกรรมการปฏิบัติการตาม พ.ร.บ. ฯลฯซึ่งห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดยักย้ายข้าวจากสถานที่เก็บ ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพ.ร.บ.การค้าข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา๑๐ พิพากษาให้จำคุกคนละ ๖ เดือน ปรับคนละ ๑๕๐๐ บาทแต่เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นเพียงฐานพยายาม จึงให้จำคุกคนละ ๔ เดือน ปรับคนละ ๑๐๐๐ บาท โทษจำให้รอการลงอาญา ส่วนข้าว ๗๑๖ กระสอบของกลาง ยังถือไม่ได้ว่ากรรมสิทธิของจำเลย โดยบริษัทซุ่นเฮงหลียังไม่ได้ส่งมอบให้คบตามจำนวน จึงไม่ริบ
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาเฉพาะว่า ควรลงโทษในฐานทำความผิดสำเร็จ กับให้ริบข้าวของ
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามปัญหาข้อแรก ข้อพิจารณามีเพียงว่า จำเลยได้ยักข้าวของกลางจากสถานที่เก็บจริงหรือไม่เท่านั้น เป็นเรื่องเฉพาะข้าวของกลางที่ปรากฎจำนวน+แล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับข้าวจำนวนอื่น คดีนี้จำเลยได้ขนย้ายข้าวของกลางออกไปพ้นโกดังที่เก็บจน+ไปบรรทุกเรือแล้ว ต้องฟังว่าจำเลยได้ยักย้ายข้าวของกลางจากสถานที่เก็บเป็นความผิดสำเร็จและข้าวของกลางก็ตกเป็นข้าว ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดในกรณีเช่นนี้ พ.ร.บ.การค้าข้าว ๒๔๘๙ มาตรา ๒๑ ทวิ บัญญัติให้ริบข้าวนั้นเสีย และในคดีนี้มิได้มีข้อโต้เถียงว่าจะริบข้าวของกลางไม่ประการใด ไม่มีเหตุผลที่จะวินิจฉัยเลยไปถึงว่า ข้าวของกลางเป็นของบริษัทซุ่นเฮงหลี ผู้มิได้กระทำผิดด้วย แม้บริษัทซุ่นเฮงหลีเองมิได้โต้แย้งว่า ไม่ควรริบข้าวของกลางแต่อย่างใด
จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยทั้งสามผิดตามพ.ร.บ.การค้าข้าว ๒๔๘๙ มาตรา ๑๗ ฉบับที่ ๒ มาตรา ๑๐ ให้จำคุกคนละ ๖ ปีปรับคนละ ๑๕๐๐ บาท โทษจำให้รอการลงอาญา กับให้ริบข้าวของ ๗๑๖ กระสอบเสีย

Share