คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3812/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า “วันคำพิพากษาถึงที่สุด” ตาม ป.อ. มาตรา 36 ย่อมหมายความถึงคำพิพากษาในคดีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์ ข้อเท็จจริงได้ความว่าคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2436/2542 ของศาลชั้นต้นกับคดีนี้เป็นกรณีเดียวกันแต่ฟ้องคดีคนละคราว ทรัพย์สินที่ยึดได้ก็เป็นทรัพย์สินรายเดียวกัน รวมทั้งธนบัตรของกลางที่ศาลพิพากษาให้ริบไปแล้วในคดีหมายเลขแดงที่ 2436/2542 ก่อนคดีนี้ แม้โจทก์จะมีคำขอให้ริบธนบัตรของกลางในคดีนี้และศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ริบ ก็ไม่อยู่ในอำนาจของศาลคดีนี้ที่จะสั่งให้ริบธนบัตรของกลางซ้ำอีก ธนบัตรของกลางจึงมิใช่ของกลางในคดีนี้ที่ศาลจึงพึงวินิจฉัยสั่งด้วย เมื่อคดีหมายเลขแดงที่ 2436/2542 ถึงที่สุด และผู้ร้องมายื่นคำร้องในคดีนี้ขอคืนของกลางภายหลังวันที่คำพิพากษาในคดีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบธนบัตรของกลางถึงที่สุดแล้วเกิน 1 ปี คำร้องของผู้ร้องจึงต้องห้ามตาม ป.อ. มาตรา 36

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ริบธนบัตร ฉบับละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ รวม 230 ฉบับ ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้สั่งคืนธนบัตรของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้คืนธนบัตรของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2541 โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสอง กับนายอิดริสซ่าและนายบาบัททูเนขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 266, 268 และ 341 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 4, 11, 12, 18, 62 และ 91 กับให้ริบบัตรเบิกถอนเงินสดอัตโนมัติ 3 ใบ หนังสือเดินทางของประเทศสาธารณรัฐเซียร่าเลโอน หนังสือเดินทางของประเทศสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เหนือ ธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐ ฉบับละ 100 ดอลล่าร์ รวม 230 ฉบับ เช็คของธนาคารบอสตัน และเช็คของธนาคารเมลลอน แบงค์เอ็น เอ จำกัด ของกลาง นายบาบัททูเนให้การสารภาพ ส่วนจำเลยยื่นให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ให้การปฏิเสธเป็นคดีใหม่ และศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนายบาบัททูเนตามฟ้องกับริบหนังสือเดินทางของประเทศสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เหนือ ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 6667/2541 คดีหมายเลขแดงที่ 7607/2541 ของศาลชั้นต้น นายบาบัททูเนอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษสถานเบา นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2541 โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองและนายอิดริสซ่าเป็นคดีใหม่ โดยขอให้ศาลสั่งริบบัตรเบิกถอนเงินสดอัตโนมัติ หนังสือเดินทางของประเทศสาธารณรัฐเซียร่าเลโอน ธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐ ฉบับละ 100 ดอลล่าร์ รวม 230 ฉบับ เช็คของธนาคารบอสตัน และเช็คของธนาคารเมลลอน แบงค์เอ็น เอ จำกัด ของกลาง นายอิดริสซ่าให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นจึงสั่งให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีใหม่แล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนายอิดริสซ่าตามฟ้อง และสั่งริบของกลาง ตามคดีอาญาหมายเลยดำที่ 8406/2541 คดีหมายเลขแดงที่ 2436/2542 ของศาลชั้นต้น นายอิดริสซ่าอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โดยศาลชั้นต้นอ่าน
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2542 คดีถึงที่สุดเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2542 ส่วนจำเลยทั้งสองโจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2542 และขอให้ศาลสั่งริบบัตรเบิกถอนเงินสดอัตโนมัติ 3 ใบ ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฉบับละ 100 ดอลล่าร์ รวม 230 ฉบับ เช็คของธนาคารบอสตัน และเช็คของธนาคารเมลลอน แบงค์เอ็น เอ จำกัด ของกลาง ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2794/2542 คดีหมายเลขที่ 6155/2543 ของศาลชั้นต้น คดีถึงที่สุดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2543 โดยศาลชั้นต้นพิพาษายกฟ้องและสั่งริบของกลางด้วย ต่อมาวันที่ 9 มีนาคม 2544 ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอคืนธนบัตรของกลางเป็นคดีนี้ เห็นว่า การขอคืนของกลางตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ซึ่งเจ้าของมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ย่อมีสิทธิขอคืนต่อศาลได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น คำว่า “วันคำพิพากษาถึงที่สุด” ย่อมหมายความถึงคำพิพากษาในคดีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์ ตามข้อเท็จจริงได้ความว่าคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2436/2542 ของศาลชั้นต้นกับคดีนี้เป็นกรณีเดียวกัน แต่ฟ้องคดีคนละคราวกัน ทรัพย์สินที่ยึดได้ก็เป็นทรัพย์สินรายเดียวกัน ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมทั้งธนบัตรของกลางจึงเป็นของกลางที่ศาลพิพากษาให้ริบไปแล้วในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2436/2542 ของศาลชั้นต้น ก่อนคดีนี้ แม้โจทก์จะมีคำขอให้ริบธนบัตรของกลางในคดีนี้และศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ริบธนบัติของกลาง ก็ไม่อยู่ในอำนาจของศาลในคดีนี้ซึ่งเป็นคดีหลังที่สั่งให้ริบธนบัตรของกลางซ้ำอีก ธนบัติของกลางจึงมิใช่ของกลางในคดีนี้ที่ศาลจะพึงวินิจฉัยสั่งด้วย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาและมีคำสั่งให้ริบธนบัตรของกลางแล้วในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2436/2542 นายอิดริสซ่าซึ่งเป็นจำเลยในดคีดังกล่าวอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีถึงที่สุดเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2542 ผู้ร้องมายื่นคำร้องในคดีนี้ขอคืนธนบัตรของกลางเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2544 จึงเป็นการยื่นคำร้องภายหลังวันที่คำพิพากษาในคดีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบธนบัตรของกลางถึงที่สุดแล้วเกิน 1 ปี คำร้องของผู้ร้องจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เอง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง

Share