แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 125 วรรคหนึ่ง กำหนดให้นายจ้างที่ไม่พอใจคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานนำคดีไปสู่ศาลได้ภายใน30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง โดยมาตรา 125 วรรคสาม กำหนดให้นายจ้างที่นำคดีไปสู่ศาลต้องวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่ถึงกำหนดจ่ายตามคำสั่งพนักงานตรวจ แรงงานจึงจะฟ้องคดีได้ ส่วนการวางเงินตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานจะต้องให้สอดคล้องกับความไม่พอใจคำสั่งดังกล่าวด้วย โดยนายจ้างไม่พอใจหรือโต้แย้ง คำสั่งพนักงานตรวจแรงงานเท่าใดก็วางเงินเท่าที่ตนโต้แย้ง ไม่จำต้องวางเต็มจำนวนตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานเสมอไป เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างไม่พอใจหรือโต้แย้งคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานจำเลยแต่เพียงว่าโจทก์ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเงินจำนวน 120,000 บาท โจทก์จึงวางเงิน เฉพาะจำนวนดังกล่าวได้ และศาลแรงงานจะต้องพิจารณาสั่งคำฟ้องโจทก์ตามรูปคดี
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2541 โจทก์และบริษัทศรีเทพไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกันยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองในฐานะพนักงานตรวจแรงงานต่อศาลแรงงานกลางตามคดีหมายเลขดำที่ 22879/2541 ขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ 61/2541 และ 62/2541 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2541 ของจำเลยทั้งสองโดยโจทก์ได้วางเงินต่อศาลตามจำนวนที่จะต้องชำระตามคำสั่งจำเลยทั้งสองจำนวน 120,000 บาท และยื่นคำร้องขอขยายเวลาวางเงิน ตามคำสั่งจำเลยทั้งสองในส่วนสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าอีก 1 เดือน ออกไปถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2541 ศาลแรงงานกลางสั่งให้โจทก์ทั้งสองแยกฟ้องยื่นมาใหม่ภายใน 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าโจทก์ทั้งสองไม่ติดใจฟ้อง และอนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงิน ต่อมาวันที่ 25 ธันวาคม 2541 โจทก์ยื่นฟ้องเป็นคดีนี้ ขอให้เพิกถอนคำสั่งจำเลยทั้งสองที่ 62/2541 พร้อมทั้งยื่นคำร้องขอโอนเงินที่โจทก์วางไว้ในคดีหมายเลขดำที่ 22879/2541 มาใช้ในคดีนี้ และในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2542 โจทก์ได้วางเงินเพิ่มในคดีนี้อีก 20,000 บาท
ศาลแรงงานกลางสั่งคำฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ยื่นฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 22879/2541 และนำเงินมาวางศาลเพียงบางส่วนโดยจะนำเงินส่วนที่เหลือมาวางศาลในวันที่ 22 ธันวาคม 2541 แต่โจทก์ไม่ปฏิบัติตามที่ได้ยื่นคำร้องขอขยาย กรณีจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 125 มีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า โจทก์อุทธรณ์ว่า โจทก์ได้ชำระเงินให้แก่นายอภิชาติ กอบประเสริฐกุล ลูกจ้างแล้วจำนวน 20,000 บาท โดยหักภาษีเงินได้ณ ที่จ่ายไว้จำนวน 325 บาท จำนวนเงินที่โจทก์วางต่อศาลแรงงานในการยื่นฟ้องคดีนี้จึงครบจำนวนที่โจทก์จะต้องชำระแก่นายอภิชาติตามคำสั่งจำเลยทั้งสองแล้วเห็นว่าโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยทั้งสองโดยอ้างว่านายอภิชาติไปประกอบธุรกิจซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับธุรกิจของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 นายอภิชาติได้ลาออกจากการเป็นพนักงานของโจทก์แล้ว โจทก์จึงสิ้นความผูกพันตามข้อตกลงการจ้าง โจทก์ไม่เคยตกลงจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่นายอภิชาติตามที่จำเลยทั้งสองอ้างในคำสั่งโจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่นายอภิชาติ แต่โจทก์รับว่าได้ชำระเงินให้แก่นายอภิชาติแล้ว จำนวน 20,000 บาท โดยหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้จำนวน 325 บาท โจทก์จึงขอวางเงินในการฟ้องคดีนี้จำนวน 120,000 บาท โดยขอโอนเงินที่โจทก์วางไว้ในคดีหมายเลขดำที่ 22879/2541 ของศาลแรงงานกลางมาวางในคดีนี้ตามคำร้องโจทก์ฉบับลงวันที่ 25 ธันวาคม 2541 ในคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวแสดงว่าโจทก์ยอมปฏิบัติตามคำสั่งจำเลยทั้งสองบางส่วนโดยยอมจ่ายเงินให้นายอภิชาติแล้ว 1 เดือน คงโต้แย้งคำสั่งจำเลยทั้งสองแต่เพียงว่าโจทก์ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้นายอภิชาติเฉพาะส่วนที่โจทก์ยังไม่ได้จ่ายอีก 120,000 บาทเท่านั้นซึ่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 125 วรรคหนึ่ง กำหนดให้นายจ้างที่ไม่พอใจคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานนำคดีไปสู่ศาลได้ภายใน 30 วันนับแต่วันทราบคำสั่ง โดยมาตรา 125 วรรคสาม กำหนดให้นายจ้างที่นำคดีไปสู่ศาลต้องวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่ถึงกำหนดจ่ายตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานจึงจะฟ้องคดีได้ ส่วนการวางเงินตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานจะต้องให้สอดคล้องกับความไม่พอใจคำสั่งดังกล่าวด้วย โดยนายจ้างไม่พอใจหรือโต้แย้งคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานเท่าใดก็วางเงินเท่าที่ตนโต้แย้ง ไม่จำต้องวางเต็มจำนวนตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานเสมอไป เมื่อโจทก์ไม่พอใจหรือโต้แย้งคำสั่งจำเลยทั้งสองแต่เพียงค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเงินจำนวน 120,000 บาท โจทก์จึงวางเงินเฉพาะจำนวนดังกล่าวได้
พิพากษายกคำสั่งศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาสั่งคำฟ้องโจทก์ใหม่ตามรูปคดี