แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวทั้งตัวและด้ามประมาณหนึ่งคืบใบมีดกว้างขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือแทงผู้เสียหายครั้งแรกถูกที่ข้อศอกซ้าย แล้วแทงซ้ำถูกที่บริเวณเหนือราวนมด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญ ลึกถึงกระดูกซี่โครง เยื่อหุ้มปอดฉีกขาด ปอดข้างซ้ายแฟบลง ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติประกอบกับรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องปรากฏว่าถ้าผู้เสียหายไม่ได้รับการรักษาโดยทันทีด้วยการเจาะปอด จะถึงแก่ความตายเช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายให้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมแทงนางคล้าย ยังคำ หลายครั้งโดยมีเจตนาฆ่า แต่นางคล้ายไม่ถึงแก่ความตายเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การว่า จำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน ริบมีดของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ประกอบด้วยมาตรา 69 จำคุก 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปว่าการที่จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมแทงผู้เสียหายฝ่ายเดียว จำเลยควรมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายดังฟ้องหรือไม่ ได้ความจากคำเบิกความของผู้เสียหายว่าจำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวทั้งตัวและด้ามประมาณหนึ่งคืบ ใบมีดกว้างขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ แทงผู้เสียหายครั้งแรกถูกที่ข้อศอกซ้ายแล้วแทงซ้ำถูกที่บริเวณเหนือราวนมด้านซ้าย ตามรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องและคำเบิกความของนายแพทย์สำรวม ด่านประชันกุล ปรากฏว่าบาดแผลที่เหนือราวนมซ้านลึกถึงกระดูกซี่โครงเยื่อหุ้มปอดฉีกขาด ปอดข้างซ้ายแฟบลงไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ หากไม่รักษาให้ทันท่วงทีโดยการเจาะปอด ผู้เสียหายจะถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าการที่จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมแทงผู้เสียหายที่บริเวณหน้าอก อันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญลึกถึงกระดูซี่โครง เยื่อหุ้มปอดฉีกขาด ปอดข้างซ้ายแฟบลงไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ประกอบกับรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องปรากฏว่า ถ้าผู้เสียหายไม่ได้รับการรักษาโดยทันทีด้วยการเจาะปอดจะถึงแก่ความตาย เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายให้ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่า
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น