คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นางใยอาของโจทก์เล่าให้จำเลยฟังว่าโจทก์(เป็นนางสาว) กับนายอนันต์ซึ่งเป็นญาติของโจทก์ รักใคร่กันทางชู้สาวนอนกอดจูบกันและได้เสียกัน ต่อมานางสงวนมาถามจำเลยว่านางใยมาเล่าอะไรให้จำเลยฟังจำเลยก็เล่าข้อความตามที่นางใยเล่าแก่จำเลยให้นางสงวนฟังนางสงวนได้เอาข้อความนั้นไปเล่าให้โจทก์ฟังอีกชั้นหนึ่งเช่นนี้ ถ้อยคำที่จำเลยกล่าว เป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์อย่างเห็นได้ชัด เมื่อจำเลยกล่าวออกไปแม้จะโดยถูกถามก็ดี จำเลยควรต้องสำนึกในการกระทำและเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลย ถือได้ว่า จำเลยจงใจกล่าวข้อความยืนยันข้อเท็จจริงโดยเจตนาใส่ความโจทก์

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยได้รับคำบอกเล่าข้อความตามฟ้องของโจทก์จากนางใยอาของโจทก์เล่าให้จำเลยฟังว่า โจทก์กับนายอนันต์ซึ่งเป็นญาติของโจทก์ รักใคร่กันทางชู้สาว นอนกอดจูบกันและได้เสียกันในทางกามารมณ์ ต่อมานางสงวนมาถามจำเลยว่านางใยมาเล่าอะไรให้จำเลยฟังบ้างจำเลยก็เล่าข้อความตามที่นางใยเล่าแก่จำเลยให้นางสงวนฟังนางสงวนได้เอาข้อความนั้นไปเล่าให้โจทก์ฟังอีกชั้นหนึ่ง

โจทก์จึงฟ้องว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326

ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยมิได้มีเจตนาพูดหาเหตุร้ายให้โจทก์เพราะจำเลยมิได้จงใจกล่าวยืนยันข้อเท็จจริง หากนางสงวนไปถามจำเลย ๆ จึงเล่าให้ฟังตามที่ได้ทราบมาจากนางใยเท่านั้น ไม่เป็นการใส่ความโจทก์ จำเลยยังไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท พิพากษาให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ข้อความที่จำเลยกล่าว ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง แม้จำเลยจะได้เล่าให้นางสงวนผู้ถามฟังก็ดีเพราะการเล่าย่อมอาจเห็นผลว่า นางสงวนจะเอาข้อความที่เล่านี้ไปแพร่งพรายและก็เป็นเรื่องจริงดังนั้นเห็นว่าจำเลยมีเจตนาหมิ่นประมาทโจทก์ พิพากษากลับศาลชั้นต้นว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ลดโทษกึ่งเพราะจำเลยรับคงปรับ 100 บาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวตามฟ้องของโจทก์นั้นเป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์อย่างเห็นได้ชัดอยู่แล้ว เมื่อจำเลยกล่าวออกไป แม้จะโดยถูกถามก็ดีจำเลยควรต้องสำนึกในการกระทำและเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยดังที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้ว ถือได้ว่าจำเลยจงใจกล่าวข้อความยืนยันข้อเท็จจริงโดยเจตนาใส่ความโจทก์ พิพากษายืน

Share