แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสมือนไร้ความสามารถยังสามารถประกอบกิจการต่างๆ ได้ด้วยตนเอง เว้นแต่ในบางกรณีจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์เสียก่อนเท่านั้นฉะนั้นผู้พิทักษ์จึงหามีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้เสมือนไร้ความสามารถได้ไม่
(อ้างฎีกาที่ 666/2495)
เรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้ ศาลก็ควรยกขึ้นวินิจฉัย
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินโฉนดรายพิพาทระหว่าง จำเลยที่ 1-2-3 และให้จำเลยที่ 1 คืนโฉนดที่ดินของโจทก์ที่จำเลยยึดไว้เป็นประกัน
จำเลยต่อสู้ว่า เป็นการโอนโดยสุจริต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ 1 คืนโฉนดของโจทก์ให้แก่โจทก์ ข้ออื่น ๆ ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ นายเสงี่ยม ผู้พิทักษ์เป็นผู้ฟ้องคดีแทนนายอิ่ม ผู้เสมือนไร้ความสามารถ อันปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้ ศาลก็ควรยกขึ้นวินิจฉัย และปัญหาที่ว่า ผู้พิทักษ์จะมีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้เสมือนไร้ความสามารถหรือไม่นี้ตามกฎหมายหาได้มีบัญญัติให้ผู้พิทักษ์ทำแทนได้ไม่ มาตรา 35ก็แสดงอยู่ว่า ผู้เสมือนไร้ความสามารถยังสามารถประกอบกิจการต่าง ๆ ได้ เว้นแต่ในบางกรณีจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์เสียก่อนเท่านั้น ดังแบบอย่างฎีกาที่ 666/2495 ฎีกาของโจทก์จึงฟังไม่ขึ้น พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์