แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือแจ้งการอายัดในหุ้นของลูกหนี้ ซึ่งได้ชำระค่าหุ้นแล้วไปยังบริษัทเมื่อปรากฎว่าในหุ้นนั้นอยู่ในครอบครองของลูกหนี้และแจ้งการอายัดปืนไปยังนายทะเบียนปืน ในเมื่อปืนอยู่ในความครอบครองของเจ้าของหรือผู้อื่นนั้น ไม่ถือว่าเป็นการยึดหรืออายัดตาม ป.ม.วิ.แพ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงย่อมเรียกร้องยึดเอาทรัพย์ที่อายัดไม่ถูกต้องนั้นมาเข้ากองล้มละลายได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 110
ย่อยาว
เดิมผู้ร้องชนะคดีนายติ๊วเหลี่ยนหรือเหลี่ยน จึงบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของนายเหลี่ยนคือได้อายัดทรัพย์สินของนายเหลี่ยน คือใบหุ้นของบริษัทนำแสง จำกัดซึ่งได้ชำระค่าหุ้นส่วนแล้ว ๕๐๐๐ บาท กับใบหุ้นที่ ๙๔ ของบริษัทอิส+ จำกัด และอายัดปืน ๒กระบอก
ต่อมา ศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้นายเหลี่ยน เป็นบุคคลล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ มีคำสั่งยึดทรัพย์รายนี้มารวมในกองทรัพย์สินของผู้ล้มละลาย ผู้ร้องคัดค้าน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งยกคำร้อง ผู้ร้องจึงมาร้องในคดีนี้ขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ปล่อยทรัพย์รายนี้เพราะได้อายัดไว้ก่อนล้มละลาย ๓ เดือน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้การแก้คำร้องว่าเพราะการอายัดของผู้ร้องตามคำร้องไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย คือใบหุ้นนั้นปรากฎว่าอยู่ในความครอบครองของนายเหลี่ยน แต่ไปแจ้งอายัดต่อบริษัทนำแสง จำกัด เป็นการแจ้งต่อบุคคลที่ไม่ใช่ต้องรับผิดชอบ ใบหุ้นที่ ๙๔ และปืนก็เช่นเดียวกัน
ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ดังคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในเรื่องนี้ปรากฎว่าการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ไม่สำเร็จบริบูรณ์ตามกฎหมาย จึงยกมาใช้ยันแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้ ฯลฯ
จึงพิพากษายืน
