แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ที่ 2 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากบริษัท ค. โดยมีข้อกำหนดให้โจทก์ที่ 2 ต้องรับผิดในค่าเสียหายอันเกิดแก่รถยนต์ทุกกรณีและต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่ทั้งหมด โดยมิได้กำหนดให้หักค่าเสื่อมราคาได้ ข้อสัญญาดังกล่าวมีผลบังคับได้ เมื่อรถยนต์ที่เช่าซื้อถูกจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดเสียหายทั้งคัน โจทก์ที่ 2ต้องชำระค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลือให้ผู้เช่าซื้อตามข้อสัญญาดังกล่าวถือได้ว่าค่าเช่าซื้อที่โจทก์ที่ 2 จะต้องชำระให้ผู้ให้เช่าซื้อเป็นค่าเสียหายโดยตรงจากการทำละเมิดของจำเลยที่ 1.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 2 เช่าซื้อรถยนต์คันหมายเลยทะเบียน8 น – 0040 กรุงเทพมหานคร จากบริษัทโค้วอยู่ฮะ มอเตอร์ จำกัดโจทก์ที่ 1 เป็นผู้รับประกันรถยนต์คันนี้ไว้จากโจทก์ที่ 2ในวงเงิน 100,000 บาท จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างผู้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 80 – 1237 สงขลา ของห้าง ๆ จำเลยที่ 2 ที่ 4ซึ่งมีจำเลยที่ 3 ที่ 5 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 6 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าว จำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์ไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 4 โดยประมาทชนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8 น – 0040 กรุงเทพมหานคร ของโจทก์ที่ 2 ได้รับความเสียหายทั้งคันเป็นเงิน 230,900 บาท โจทก์ที่ 1 ในฐานะเป็นผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าเสียหายให้บริษัทโค้วอยู่ฮะ มอเตอร์ จำกัด แทนโจทก์ที่ 2ไปจำนวน 100,000 บาท จึงรับช่วงสิทธิมา โจทก์ทั้งสามทวงถามแล้ว จำเลยทั้งหกไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยทั้งหกร่วมกันชำระเงิน100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2524 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ที่ 1และจำนวน 130,900 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันทำละเมิดเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ที่ 2
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้การว่า เหตุเกิดจากความประมาทของนายถวิลคนขับรถยนต์ของโจทก์ที่ 2
จำเลยที่ 4 ให้การว่า จำเลยที่ 4 ได้ขายรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 80 – 1237 สงขลา ให้ผู้มีชื่อไปแล้ว ผู้มีชื่อได้ขายต่อให้จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 จึงไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยที่ 5
จำเลยที่ 6 ให้การว่า จำเลยที่ 6 ไม่ได้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80 -1237 สงขลา เหตุรถยนต์ชนกันเพราะความประมาทเลินเล่อของนายถวิล คนขับรถของโจทก์ที่ 2
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 6 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 100,000 บาท แก่โจทก์ที่ 1 และจำนวน 125,000 บาทแก่โจทก์ที่ 2 พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 3 ที่ 6 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ที่ 6 ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ววินิจฉัยว่า… โจทก์ที่ 2ได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากบริษัทโค้วอยู่ฮะ มอเตอร์ จำกัดซึ่งในข้อ 9 กำหนดไว้ว่า ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชอบในค่าเสียหายใด ๆ อันเกิดแก่รถไม่ว่ากรณีใด ๆ หรือโดยประการใด แม้ในเหตุสุดวิสัยนอกจากนี้ยังจะต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่ทั้งหมดแก่เจ้าของโดยมิได้กำหนดให้โจทก์ที่ 2 หักค่าเสื่อมราคาได้ข้อสัญญาดังกล่าวไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงมีผลบังคับได้ โจทก์ที่ 2 ผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตาม เมื่อโจทก์ที่ 2ต้องชำระค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลือให้ผู้เช่าซื้อตามข้อสัญญาดังกล่าวถือได้ว่าค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลือที่โจทก์ที่ 2 จะต้องชำระให้ผู้เช่าซื้อเป็นค่าเสียหายโดยตรงจากการทำละเมิดของจำเลยที่ 1
พิพากษายืน.