แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นำกระบือของผู้อื่นซึ่งเจ้าของมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยข้ามเขตที่ได้มีประกาศควบคุมศาลจะริบกระบือของผู้อื่นไม่ได้ ไม่เหมือนอย่างทำผิดพระราชบัญญัติศุลกากร
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่า จำเลยได้นำกระบือ 4 ตัว จากท้องที่ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ไปยังท้องที่อำเภอรัตนภูมิจังหวัดสงขลา โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเป็นการฝ่าฝืนต่อประกาศของคณะกรมการจังหวัดสตูล ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2488 แต่จำเลยว่ากระบือเป็นของจำเลยเพียง 2 ตัวส่วนอีก 2 ตัวเป็นของคนอื่นซึ่งให้จำเลยยืมไปใช้งาน และฝ่ายโจทก์ก็สืบไม่ได้ว่าเจ้าของกระบือ 2 ตัวนี้ได้รู้เห็นในการกระทำผิดของจำเลยด้วย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามฟ้องให้ปรับและริบกระบือเฉพาะที่เป็นของจำเลย 2 ตัว
โจทก์ฎีกา ขอให้ริบกระบือของกลางทั้งหมด โดยอ้างว่าพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ มาตรา 20 เป็นกฎหมายพิเศษบังคับไว้ให้ริบ
ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา 20 บัญญัติว่า “เครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ที่ได้มีประกาศควบคุมซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดให้ริบเสีย” เพียงเท่านี้ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าหาได้บัญญัติเป็นพิเศษบังคับให้ริบโดยมิได้คำนึงว่าเป็นของผู้ใดไม่ เพราะถ้ากฎหมายประสงค์อย่างโจทก์ว่าก็จะต้องบัญญัติไว้โดยชัดแจ้งอย่างเรื่องขนของหนีภาษีตามพระราชบัญญัติศุลกากร เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เป็นเรื่องสั่งให้ริบตามหลักธรรมดา คือให้ริบเฉพาะที่เป็นของผู้กระทำผิด พิพากษายืน