คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3788/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยใช้กบไฟฟ้าและเลื่อยวงเดือนของกลางซึ่งติดตั้งบนแท่นไม้ไสและเลื่อยไม้ของกลางอันเป็นการแปรรูปไม้ที่สถานที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุจึงเป็นที่ซึ่งจัดไว้เป็นที่ทำการแปรรูปไม้อันเป็นโรงงานแปรรูปไม้ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 4(13) แม้จำเลยได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมออกให้ตามพระราชบัญญัติ โรงงานฯ แล้วก็ตาม แต่โรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จำเลยก็ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 48 วรรคหนึ่ง ด้วยเมื่อจำเลยไม่ได้รับอนุญาตตามบทบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงมีความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดสำเร็จเมื่อมีการตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้จะยังมิได้แปรรูปไม้ก็ตาม ความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเป็นความผิดคนละกรรมกับความผิดฐานแปรรูปไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เลื่อยวงเดือนและกบไฟฟ้าเลื่อยและไสไม้ให้เปลี่ยนรูปและขนาดจากเดิมโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยแปรรูปไม้ชิงชังและไม้มะค่าโมงอันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไม้ชิงชังแปรรูปจำนวน 3 แผ่นปริมาตร 0.03 ลูกบาศก์เมตร ไม้มะค่าโมงแปรรูปจำนวน 10 แผ่นปริมาตร 0.18 ลูกบาศก์เมตร รวมปริมาตรทั้งสิ้น 0.21 ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4, 47, 48, 73,74ทวิ, 74 จัตวาที่แก้ไขแล้ว ริบของกลางและจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหาแปรรูปไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไม้หวงห้ามแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ปฏิเสธในข้อหาตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 4, 47, 48 วรรคหนึ่ง, 73 วรรคหนึ่ง, 74, 74 ทวิ,74 จัตวา ที่แก้ไขแล้ว ฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปี ฐานแปรรูปไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปีฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปีจำเลยให้การรับสารภาพในข้อหาแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนสืบพยานเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยรวม 2 ปีริบของกลาง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้รับอนุญาตตั้งโรงงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมที่เกิดเหตุของจำเลย แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ตามวันและเวลาเกิดเหตุจำเลยแปรรูปไม้โดยใช้กบไฟฟ้าและเลื่อยวงเดือนของกลางไสและเลื่อยไม้ชิงชันกับไม้มะค่าโมงของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้ชิงชันแปรรูปกับไม้มะค่าโมงแปรรูปของกลางมีปริมาตรรวม0.21 ลูกบาศก์เมตร ไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ปัญหาว่าจำเลยมีความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การที่จำเลยใช้กบไฟฟ้าและเลื่อยวงเดือนของกลางไสและเลื่อยไม้ของกลางอันเป็นการแปรรูปไม้ที่สถานที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุจึงเป็นสถานที่ซึ่งจัดไว้เป็นที่ทำการแปรรูปไม้ อันเป็นโรงงานแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4(13) ถือว่าจำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้ขึ้น ณ สถานที่เกิดเหตุอันอยู่ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ซึ่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 วรรคหนึ่งบัญญัติว่า “ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ ตั้งโรงงานค้าไม้แปรรูป มีไม้สักแปรรูปไม่ว่าจำนวนเท่าใดไว้ในครอบครอง หรือมีไม้แปรรูปชนิดอื่นเป็นจำนวนเกิน0.20 ลูกบาศก์เมตร ไว้ในครอบครอง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามบทบัญญัติดังกล่าวเห็นได้ว่าการตั้งโรงงานแปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสมอไป มิฉะนั้นถือเป็นความผิด แม้จำเลยได้รับอนุญาตตั้งโรงงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้ออกให้ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 เมื่อโรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จำเลยก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 วรรคหนึ่ง กล่าวคือต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ด้วยเมื่อจำเลยไม่ได้รับอนุญาตตามบทบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงมีความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ที่จำเลยฎีกาว่า หากฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำความผิดดังกล่าวก็เป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต นั้น เห็นว่า ความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 48 วรรคหนึ่ง เพียงแต่มีการตั้งโรงงานแปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ แม้จะยังมิได้แปรรูปไม้ก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว โรงงานแปรรูปไม้ที่ตั้งขึ้นจะใช้แปรรูปไม้แล้วหรือไม่ไม่เป็นข้อสำคัญความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเป็นความผิดคนละกรรมกับความผิดฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตแต่เห็นว่าไม้ของกลางมีปริมาตรเพียงเล็กน้อย เครื่องมือที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดเป็นเครื่องมือขนาดเล็ก และจำเลยไม่เคยกระทำผิดอาญาใด ๆ มาก่อน จึงสมควรรอการลงโทษให้จำเลย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยทุกกระทงอีกสถานหนึ่ง ส่วนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 และให้จ่ายสินบนนำจับตามกฎหมายนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share