แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประเด็นข้อกฎหมายนั้นคู่ความเพียงแต่ยกขึ้นอ้างเป็นที่เข้าใจในข้อหาใดเรื่องใดก็เป็นการเพียงพอแล้ว แต่ถ้าข้อเท็จจริงที่นำไปสู่ข้อกฎหมายนั้นยังไม่เพียงพอ ก็จำเป็นต้องอ้างข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งการนั้นโดยชัดแจ้ง จึงจะเป็นประเด็นที่ฝ่ายตนจะมีสิทธินำสืบต่อไปได้ คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขายข้อหาเดียว จำเลยให้การว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว เป็นคำให้การชัดแจ้งว่าข้อเท็จจริงเรื่องการซื้อขายทั้งหมดขาดอายุความแล้วชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์เป็นพ่อค้า จำเลยประกอบอาชีพรับจ้างเคาะ พ่นสี ปะ ผุรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สินค้าที่จำเลยซื้อจากโจทก์เป็นเครื่องอะไหล่ทั้งนั้น แม้จะนำมาใช้เปลี่ยนชิ้นส่วนของรถหรือขายก็ไม่ถือว่าเป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของฝ่ายลูกหนี้ตามความหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)สิทธิเรียกร้องจึงมีกำหนดอายุความสองปี.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองรว่มกันประกอบการค้าอุตสาหกรรมใช้นามในทางการค้าว่า “อู่อนันต์ กลการ” ระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม2526 ถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2527 จำเลยทั้งสองได้ซื้อสินค้าอะไหล่รถยนต์และเครื่องยนต์จากโจทก์เพื่อใช้ในกิจการอุตสาหกรรมของจำเลยทั้งสองเป็นเงินรวม 108,668 บาท จำเลยทั้งสองได้รับมอบสินค้าไปจากโจทก์แล้ว แต่ไม่ชำระเงินค่าสินค้า ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินค่าสินค้าและดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน108,976 บาท ให้โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินต้น 108,668 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การว่า ไม่เคยซื้อสินค้าและรับสินค้าจากโจทก์คดีขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงิน 21,625 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 30กันยายน 2529 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 87,043 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 30 กันยายน 2529 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลอุทธรณ์ถือว่าคำให้การจำเลยเรื่องอายุความไม่ชัดแจ้งจึงไม่เป็นประเด็นแห่งคดีทึ่ศาลจะวินิจฉัยเห็นว่า ประเด็นแห่งคดีนั้นมี 2 ข้อ คือประเด็นข้อเท็จจริงและประเด็นข้อกฎหมาย ประเด็นข้อเท็จจริงในคดีแพ่งนั้น คำฟ้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง ส่วนคำให้การจำเลยนั้นให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วนรวมทั้งเหตุแห่งการนั้นตามมาตรา 177 วรรคสอง แต่ประเด็นข้อกฎหมายนั้น คู่ความเพียงแต่ยกขึ้นอ้างเป็นที่เข้าใจในข้อหาใดเรื่องใดก็เป็นการเพียงพอแล้ว เพราะข้อกฎหมายศาลรู้เอง แต่ถ้าข้อเท็จจริงที่นำไปสู่ข้อกฎหมายนั้นยังไม่เพียงพอก็จำเป็นต้องอ้างข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งการขาดอายุความโดยชัดแจ้ง จึงไม่เป็นประเด็นแห่งคดีที่ศาลจะวินิจฉัยนั้น เห็นว่า ประเด็นแห่งคดีนั้นมี 2 ข้อคือประเด็นข้อเท็จจริงและประเด็นข้อกฎหมาย ประเด็นข้อเท็จจริงในคดีแพ่งนั้น คำฟ้องต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหมาเช่นว่านั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสองส่วนคำให้การจำเลยนั้นให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วนรวมทั้งเหตุแห่งการนั้นตามมาตรา 144 วรรคสอง แต่ประเด็นข้อกฎหมายคู่ความเพียงแต่ยกขึ้นอ้างเป็นที่เข้าใจในข้อหาใดเรื่องใดก็เป็นการเพียงพอแล้ว เพราะข้อกฎหมายศาลรู้เอง แต่ถ้าข้อเท็จจริงที่นำไปสู่ข้อกฎหมายนั้นยังไม่เพียงพอก็จำเป็นต้องอ้างข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งการขาดอายุความโดยชัดแจ้งจึงเป็นประเด็นที่ฝ่ายตนจะมีสิทธินำสืบต่อไปได้ คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขายข้อหาเดียวจำเลยให้การว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เป็นคำให้การโดยชัดแจ้งว่าข้อเท็จจริงเรื่องการซื้อขายทั้งหมดขาดอายุความแล้วคำให้การจำเลยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสอง ได้ความว่า โจทก์เป็นพ่อค้า จำเลยทั้งสองประกอบอาชีพรับจ้างเคาะพ่นสี ปะผุรถยนต์และรถจักรยานยนต์สินค้าที่จำเลยทั้งสองซื้อจากโจทก์เป็นเครื่องอะไหล่ทั้งนั้นแม้จะนำมาใช้เปลี่ยนชิ้นส่วนของรถหรือขายก็ไม่ถือว่าเป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของฝ่ายลูกหนี้ตามความหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) สิทธิเรียกร้องจึงมีกำหนดอายุความสองปี
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.